นครปฐม - ผู้ว่าฯ นครปฐม เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติการเข้มข้นในการสกัดกั้น และปราบปรามการแพร่ระบาดยาเสพติด ตามมาตรการเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประชุมร่วมกับคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดนครปฐม ณ ศาลากลางจังหวัดนครปฐม เพื่อพิจารณาแนวทางการตามมาตรการเร่งด่วนในการปราบปราม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ 41/2557 ลงวันที่ 31 พ.ค.2557 เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และจากการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2557 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการปราบปราม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนยุติธรรม คสช.เป็นประธาน ได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการปราบปราม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามมาตรการเร่งด่วนและรายงานผลการปฏิบัติให้ คสช.ทราบ
พร้อมทั้งกำหนดให้เร่งรัดดำเนินการในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนเฝ้าระวังสูงสุดที่จำเป็นต้องดำเนินการเร่งด่วน จำนวน 3,250 หมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ โดยต้องลดระดับความรุนแรงลงภายใน 30 วัน ซึ่งจังหวัดนครปฐม ได้เตรียมดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการปราบปราม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
โดยการปฏิบัติอย่างเข้มข้นในการสกัดกั้น ปราบปรามจับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดยาเสพติด ดำเนินการจัดระเบียบการเฝ้าระวังสถานบริการและสถานประกอบการให้ปลอดจากยาเสพติดและนำผู้เสพมาบำบัดรักษา ในเรื่องของการบำบัดฟื้นฟู และสร้างภูมิคุ้มกันนั้นนอกจากนำผู้เสพบำบัดรักษาในสถานพยาบาล ในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ต้องดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันแก่เยาวชน และกลุ่มเสี่ยง ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมและประสานงานกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ มาตรการเร่งด่วนอีกส่วนหนึ่งคือ การยึดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ การดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินงาน 30 วัน คือตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.-8 ก.ค.2557 โดยจะได้มีการติดตามประเมินผลและรายงานผลการปฏิบัติให้สำนักงาน ป.ป.ส.เป็นประจำทุก 7 วัน และสำนักงาน ป.ป.ส.จะรายงานให้ คสช.ทราบทุก 15 วัน ทั้งนี้จะได้มีการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องต่อไป