วิสามัญแก๊งค้ายาดับคากระท่อมชายแดนเชียงราย หลังทั้งยิง ขว้างระเบิดใส่ จนท.

เชียงราย - ทหารพรานวิสามัญขบวนการค้ายาเสพติดคาชายแดนแม่ฟ้าหลวง 1 ศพ หลังลาดตระเวนตรวจค้นกระท่อมต้องสงสัย คนร้ายพยายามหลบหนีไม่พอ ยิงปืน ขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ เจอยิงสวนดับ ค้นกระเป๋าพบทั้งเฮโรอีน ยาบ้า แถมมีระเบิด และอาวุธปืนอีก

วันนี้ (10 มิ.ย.) พ.อ.วัชระพงศ์ แก้วแจ้ง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน (ฉก.ทพ.) 31 กองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้ พ.ต.สุมิตร แสนดวงดี ผบ.ร้อย ทพ.3109 นำกำลังทหารพรานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง ออกปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่ป่าระหว่างหมู่บ้านแม่สลองนอก ม.4 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง กับหมู่บ้านข้างเคียง หลังสืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านตามชายแดนไทย-พม่า

ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนพบกระท่อม 1 หลัง ตั้งอยู่ในเขตป่าดังกล่าว มีลักษณะต้องสงสัย ได้เข้าไปตรวจสอบ พบชาย 1 คน อยู่ภายในกระท่อม จึงขอเข้าตรวจค้น แต่คนข้างในกระท่อมกลับพยายามจะหลบหนีออกมา โดยหิ้วกระเป๋าผ้าสีดำออกมาด้วย

นอกจากนี้ ก่อนจะออกจากกระท่อมได้ยิงอาวุธปืนไม่ทราบขนาดออกมาจากกระท่อม พร้อมขว้างลูกระเบิดออกมา จำนวน 1 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบกันจ้าละหวั่น ก่อนที่ชายในกระท่อมจะวิ่งออกมาจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น สิ้นเสียงปืนชายคนดังกล่าวถูกกระสุนของเจ้าหน้าที่เสียชีวิตคาที่ ใกล้ศพยังพบลูกระเบิดอยู่อีก 1 ลูก และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ และควบคุมพื้นที่เอาไว้โดยทุกนายปลอดภัย

จากการตรวจสอบทราบชื่อชายคนดังกล่าวคือ นายชาคร ผาติความดี อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่หมู่บ้านกลางดังกล่าว แต่ปัจจุบัน ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 72/186 ซอยบึงกวาง 1/1 แสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ แล้ว แต่ก็ยังเดินทางไปมาระหว่างบ้านเดิมกับภาคกลางอยู่ รวมทั้งมีประวัติหลบหนีหมายจับจากศาล จ.เชียงราย ในคดียาเสพติด และอาวุธปืนอยู่ด้วย

เมื่อตรวจค้นกระเป๋าสีดำที่นายชาคร หิ้วไปด้วย พบบรรจุยาเสพติดอยู่หลายรายการ ประกอบไปด้วย เฮโรอีน จำนวน 1 มัด ประทับตรามือจับกัน ซึ่งเป็นของกลุ่มมูเซอ เฮโรอีนจำนวน 15 หลอด หรือบิ๊ก ฝิ่นดับจำนวน 1 ห่อ ยาบ้า 1 มัด จำนวน 2,000 เม็ด ปืนแก๊ปสั้น จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดลูกเกลี้ยงชนิดขว้าง จำนวน 1 ลูก

ต่อมา พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ ผบ.ฉก.ม.3 ในฐานะหน่วยขึ้นตรงของ ฉก.ทพ.31 พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ รอง ผบ.ฉก.ทพ.31 ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และอำนวยการปฏิบัติการ จากนั้นได้แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง อัยการ แพทย์โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมกันตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป