ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สภาวัฒนธรรมตำบลแม่เหียะเตรียมจัดประเพณีเลี้ยงดง ล้มควายหนุ่มเซ่นดวงวิญญาณปู่แสะ-ย่าแสะ เพื่อขอให้ดูแลบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ป่าไม้ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ตามความเชื่อและพิธีกรรมโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
นายยงยุทธ คุณรา รองนายกเทศมนตรีตำบลแม่เหียะ และประธานสภาวัฒนธรรมตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำบลแม่เหียะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมที่จะจัดพิธีเลี้ยงดงและพิธีเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะ ซึ่งเป็นประเพณีและพิธีโบราณของชาวบ้านในพื้นที่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และจัดขึ้นในช่วงเดือน 9 เหนือ เป็นประจำทุกปี
โดยในปีนี้กำหนดที่จะจัดพิธีขึ้นในวันที่ 11 มิ.ย. 57 นี้ ซึ่งพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. ด้วยขบวนแห่ภาพพระบฏผืนใหญ่จากวัดป่าจี้ จากนั้นไปทำพิธีบวงสรวงศาลปู่แสะ-ย่าแสะ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ เพื่อเชิญดวงวิญญาณปู่แสะ-ย่าแสะ เพื่อเคลื่อนต่อไปทำพิธีที่ลานเลี้ยงดง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสำนักงานอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ 4 (แม่เหียะ) หมู่ที่ 2 ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่
ทั้งนี้ ในการทำพิธีนั้นมีการล้มควายหนุ่มสีดำที่มีหูเพียงเขา (หูยาวเท่าเขา) รูปร่างดี มาเป็นเครื่องเซ่นให้แก่ดวงวิญญาณปู่แสะ-ย่าแสะ ที่ปกป้องรักษาผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ และป้องปรามไม่ให้แตะต้องกินเนื้อมนุษย์ ซึ่งในพิธีนี้ร่างทรงของดวงวิญญาณจะทำการกินเนื้อควายดิบดังกล่าว ขณะที่ในบริเวณพิธีจะมีการตั้งศาลเพียงตาจำนวน 12 ศาล เพื่อวางเครื่องเซ่นให้แก่เจ้าที่เจ้าทางที่สิงสถิตอยู่ด้วย
ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลแม่เหียะบอกด้วยว่า ประเพณีเลี้ยงดงเป็นการเซ่นไหว้บวงสรวงดวงวิญญาณผีในป่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตกาล ด้วยความเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ฝนตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และทำการเกษตรได้ผลดีตลอดปี
ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนมีความรักและหวงแหนรักษาป่าไม้ให้คงอยู่และไม่ให้ใครเข้าไปบุกรุกทำลายธรรมชาติป่าต้นน้ำดังกล่าวให้เสียหาย โดยพิธีจะทำผ่านร่างทรงโดยอัญเชิญดวงวิญญาณผู้ปกปักรักษาป่าแห่งนี้ นามว่า “ปู่แสะ ยักษ์จิคำ” และ “ย่าแสะ ยักษ์ตาเขียว” ซึ่งจะจัดพิธีปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น
สำหรับที่มาของประเพณีเลี้ยงดงนั้น มีตำนานเล่าว่า ในอดีตชนเผ่าลัวะในเมืองบุพพนคร ที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิง และดอยอ้อยช้าง อยู่กันแบบไม่เป็นสุข เพราะถูกยักษ์พ่อ-แม่-ลูก (ชาวเมืองเรียกยักษ์พ่อและแม่ว่า ปู่แสะ ย่าแสะ) จับเอาชาวเมืองไปกินทุกวันๆ จนต้องหนีออกจากเมือง
ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงรับรู้ความเดือดร้อนของชาวเมืองลัวะ จึงได้เสด็จมาโปรด และทรงแสดงอภินิหารธรรมให้ยักษ์ 3 ตนได้เห็นจนยักษ์ 3 ตนนั้นเกิดความเลื่อมใส ยอมสมาทานศีลห้าสืบไป
ต่อมายักษ์ทั้ง 3 ตนนึกได้ว่าพวกตนเป็นยักษ์ต้องประทังชีวิตด้วยการกินเนื้อ จึงได้ขอพระพุทธเจ้ากินควายปีละ 1 ตัว และก็จะดูแลชาวบ้านชาวเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ ให้ไปถามเจ้าเมืองแทน ยักษ์ทั้ง 3 ตนจึงได้ไปขอกับเจ้าเมืองลัวะ ซึ่งทางเจ้าเมืองก็ได้นำควายมาเซ่นปีละ 1 ตัว
หลังสิ้นสมัยปู่แสะ-ย่าแสะแล้ว ชาวบ้านยังเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์อยู่ และหวังให้ปู่แสะ-ย่าแสะ ช่วยรักษาพระพุทธศาสนาพร้อมช่วยกันดูแลชาวบ้านชาวเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข จึงได้มีพิธีเซ่นดวงวิญญาณที่เรียกกันว่า เลี้ยงดง ที่ดงหลวงใกล้ๆ กับดอยคำ ทิศใต้ของดอยสุเทพ นครเชียงใหม่ทุกปี