ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กองทัพภาคที่ 2 เชิญสื่อภาคอีสานหารือสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ เร่งเดินหน้าสร้างความปรองดองคนในชาติ ด้าน เสธ.ทภ.2 ยันไม่มีทหารออกบุกค้นบ้าน ข่มขู่รีดไถยึดทรัพย์ประชาชน คาดเป็นพวกต่อต้าน คสช. หวังทำลายชื่อเสียงให้ประชาชนไม่ไว้ใจเกลียดชังทหาร เร่งสืบหาต้นตอ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม 4 อาคารวิบูลย์ศักดิ์ ภายในกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะเสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 (เสธ.กกล.รส.ทภ.2) เป็นประธานการประชุมการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์สนับสนุน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 รวม 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกันกว่า 100 คน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ลดความขัดแย้ง เกลียดชังที่ฝังรากลึกมาเป็นเวลานาน ไม่ให้มีการแบ่งสี แบ่งฝ่าย และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธี โดยเริ่มต้นที่ครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด ภาค และประเทศ และสร้างความเข้าใจในการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยตั้งสภาปฏิรูปเพื่อปฏิรูปในเรื่องต่างๆ ที่ทุกฝ่ายยอมรับ ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เพื่อนำประเทศไปสู่การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายตามหลักธรรมาภิบาล
พล.ต.ประวิทย์ กล่าวว่า วันนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้ขอความร่วมมือสถานีวิทยุหลักทุกแห่งของภาคอีสาน ในการเป็นเครือข่ายถ่ายทอดสดรายการสร้างความปรองดองในเวลา 08.05-08.30 น.ทุกวัน จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 9 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป เนื้อหาหลักของรายการจะเน้นข่าวกิจกรรมการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง และการทำความเข้าใจต่อประชาชนโดยทั่วๆ ไป
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า มีผู้ไม่ประสงค์ดีแต่งกายเลียนแบบทหารออกตรวจค้นบ้าน ข่มขู่ รีดไถ และเข้ายึดทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัดภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ชัยภูมินั้น เรื่องนี้ขอเรียนชี้แจงว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ออกปฏิบัติภารกิจในทุกภารกิจต้องแต่งกายด้วยชุดทหารเต็มยศ ไม่มีชุดพลเรือน ไม่มีชุดนอกเครื่องแบบเป็นอันขาด
“แต่สำหรับกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นนั้นคิดว่าน่าจะเป็นพวกต่อต้านไม่พอใจในการดำเนินการของ คสช.อาจจะสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา โดยการแต่งกายชุดคล้ายทหารเข้าไปทำร้าย หรือเข้าไปตรวจค้น ยึดทรัพย์สิน เพื่อทำลายชื่อเสียง ทำให้พี่น้องประชาชนไม่ไว้วางใจ หรือเกลียดชังทหาร อันนี้เราพยายามที่จะสืบหาต้นตอให้ได้” พล.ต.ประวิทย์ กล่าว