จันทบุรี - ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ส่งผลให้ชาวบ้านตำบลโป่งน้ำร้อน เดือดร้อน ต้นลำไยส่งออกที่ปลูกไว้ยืนต้นตายไปแล้วกว่า 2,000-3,000 ต้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องจาก นายจักรพงษ์ สุดประเสริฐ อายุ 32 ปี เกษตรกรชาวสวนลำไย อยู่บ้านเลขที่ 113/3 หมู่ที่ 8 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ว่า ในพื้นที่ชาวบ้านใน 8 หมู่บ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อนหนักจากปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว และพื้นที่นี้ทางจังหวัดได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบ นายจักรพงษ์ สุดประเสริฐ ยืนรอผู้สื่อข่าว จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปดูฝายบ้านทับปะตีที่แห้งขอดจนชาวบ้านไม่สามารถที่จะใช้เครื่องสูบน้ำดันเข้าสวนลำไยที่ปลูกไว้ได้ ทำให้ผลผลิตลำไยที่ปลูกปัจจุบันชาวบ้านต้องปล่อยให้ยืนต้นตายไปแล้วกว่า 2,000-3,000 ต้น เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมาเลย
บางสวนที่มีทุนมากก็มีการนำรถกระบะออกไปบรรทุกน้ำที่คลองโป่งน้ำร้อนที่ห่างจากหมู่บ้านไป 7-8 กิโลเมตร เพื่อนำมารดต้นลำไยเลี้ยงต้นลำไยไว้ แต่น้ำก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน แม้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทหารในพื้นที่ จะมีการนำรถบรรทุกน้ำวิ่งแจกจ่ายน้ำให้แก่ชาวบ้านทุกวันแต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะความต้องการน้ำของชาวบ้านมีมาก
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านต้องเผชิญกับ 2 ปัญหาไปพร้อมๆกัน คือ ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาช้างป่าบุกสวนของชาวบ้าน
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ลำไยที่ปลูกไม่มีน้ำรด ต้องปล่อยทิ้งไว้ทำให้ใบร่วงหล่นเพราะขาดน้ำ ทั้งนี้ ชาวบ้านทำได้แต่เพียงรอฝนตกลงมาเท่านั้น ซึ่งตนเองปลูกลำไยในเนื้อที่ 5 ไร่ คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาช่วยก็จะทำให้ลำไยที่ปลูกไว้เสียหายทั้งหมด
ทั้งนี้ ปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นในพื้นที่นี้มา 2 ปี แล้ว น้ำในฝายที่เคยมีแต่ปัจจุบันได้แห้งขอด ทำให้ตนเองต้องใช้น้ำในฝายที่เหลือน้อยนิดไปก่อน ตอนนี้น้ำที่เหลือในฝายอาจจะไม่เพียงพอ หากฝนไม่ตกลงมา จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน เพราะตอนนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก