จันทบุรี - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี เตรียมขึ้นบินพรุ่งนี้เน้นพื้นที่ 2 อำเภอ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่เป้าหมายในการบินโปรยสารฝนหลวงช่วยเหลือชาวบ้าน หลังภัยแล้งปีนี้มาเร็วและยาวนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา
สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดจันทบุรี ปีนี้มาเร็ว และยาวนานกว่าทุกปี หลังฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ของชาวบ้านที่ต้องขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร
ประกอบกับแหล่งน้ำตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นคลองฝาย และสระน้ำที่ชาวบ้านขุดเก็บกักไว้เริ่มแห้งขอด และเริ่มที่จะไม่พอใช้ในช่วงฤดูแล้งในปีนี้ และชาวบ้านในหลายอำเภอที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ต้องมีการร้องขอฝนหลวงเข้าช่วยเหลือในการบินทำฝนหลวงให้แก่ชาวบ้าน และเกษตรกรที่ต้องการน้ำเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เพราะผลผลิตไม่ว่าจะเป็นมังคุด ลองกอง ทุเรียน เงาะ และลำไย กำลังติดดอกออกผลมามาก
ในเบื้องต้น หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี ได้มีการเข้ามาตั้งฐานการบินที่สนามบินท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นที่เรียบร้อยร้อยแล้ว และได้เตรียมความพร้อมไว้พร้อมทั้งหมด รวมทั้งได้มีการสำรวจสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ว่ามีการก่อตัวของเมฆมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
ซึ่งจากการสำรวจพบว่า สามารถที่จะขึ้นทำการบินโปรยสารฝนหลวงได้ในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ไม่มีปัญหา โดยจะเน้นพื้นที่ 2 อำเภอ เป็นเป้าหมายแรก คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ทำฝนหลวงก่อน เนื่องจากมีชาวบ้านร้องขอกันเข้ามามาก ประกอบพื้นที่ 2 อำเภอ ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากเป็นประจำทุกปี
น.ส.วาสนา วงษ์รัตน์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดจันทบุรี เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีชาวบ้านร้องขอเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โดยพื้นที่เป้าหมายที่จะทำการบินช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรจะอยู่ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาวก่อน เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยมีการก่อตัวของเมฆมาก การเข้าโจมตีกลุ่มเมฆจึงทำได้ง่าย และได้ผลไว
ทั้งนี้ คาดจะสามารถขึ้นทำการบินโปรยสารฝนหลวงได้ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเข้ามาบินช่วยเหลือในพื้นที่อีก 7 อำเภอ ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และพื้นที่ใกล้เคียงต่อไปอีกด้วย