พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจอยุธยา ทลายแก๊งโจรกรรมรถ จยย.รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมของกลางรถอีก 7 คัน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 3 ราย พร้อมตามล่าเครือข่ายของแก๊งเดียวกันนี้อีก 5 รายที่กำลังหลบหนี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณณโร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุเทพชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ พร้อมผู้ต้องหา 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 3 ราย พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการโจรกรรมรวม 7 คัน
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายประยุตร์ คำประเสริฐ์ อายุ 21 ปี 2.น.ส.ธิดารัตน์ เหลือทรัพย์ 3.นายบัส (นามสมมติ) 4.นายต้า (นามสมมติ) และ 5.นายเชษฐ์ (นามสมมติ) โดยนายประยุตร์ พร้อมพวกกลุ่มเยาวชนจะเป็นผู้ลักรถจักรยานยนต์ และนำไปขายต่อให้ น.ส.ธิดารัตน์ จากนั้น น.ส.ธิดารัตน์ จะนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่งในราคาคันละ 5,000-10,000 บาท
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มแก๊งของผู้ต้องหาออกตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ตามลานจอดรถ ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ สถานที่จอดรถต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างมาก เนื่องจากรถจักรยานยนต์แต่ละคันมีราคา หลายคนต้องผ่อนชำระ และใช้รถในการประกอบอาชีพ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนจนสามารถจับกุมกลุ่มคนร้ายได้
และยังมีเครือข่ายที่ยังหลบหนีอยู่อีก 5 คนคือ 1.นายกำชัย หรือแมว อรรถสิงห์ 2.นายเกรียงไกร โทนสูง 3.นายมอส (นามสมมติ) 4.นายมาส (นามสมมติ) และ 5.นายเบียร์ (นามสมมติ) ซึ่งมีหน้าที่ไปโจรกรรมรถตามสถานที่ต่างๆ แล้วนำมาขายให้แก่กลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้
นายวราวุธ โพธิ์ศรี อายุ 28 ปี ชาวบ้าน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนได้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ที่บริเวณตลาดใกล้กับสวนอุตสาหกรรมโรจนะ แล้วลงไปซื้อของในตลาดได้ประมาณ 1 ชั่วโมง กลับมาพบว่ารถของตนเองหายไป ตนตกใจมากเพราะเพิ่งจะออกรถมาได้เพียง 1 เดือน ทำให้ตนต้องผ่อนกุญแจมานานหลายเดือน และไม่สามารถไปออกรถใหม่ได้เนื่องจากชื่อติดบัญชีอยู่
“วันนี้รู้สึกดีใจมาก และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามรถจักรยานยนต์ของผมกลับมาได้”
