ปัตตานี - ผู้ว่าฯ ปัตตานี ตั้งโต๊ะลงทะเบียนช่วยเหยื่อระเบิดป่วนทั่วเมือง โดยมีผู้ได้รับผลกระทบมาลงชื่อแล้วกว่า 72 ราย ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่งการติดตาม จยย.ต้องสงสัยใกล้ชิด พร้อมกำชับกองกำลัง 3 ฝ่าย ตรวจตามอู่รถ เน้นย้ำ ปชช.ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.อย่างเคร่งครัด ห้ามออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่มโดยไม่จำเป็น
วันนี้ (26 พ.ค.) นายวิทยา พานิชพงศ์ ผวจ.ปัตตานี ได้ให้ศูนย์เยียวยาร่วมกับ อ.เมืองปัตตานี ใช้พื้นที่บริเวณภายในโรงพยาบาลปัตตานี กางเต็นท์ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์แจ้งความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางลงชื่อในขั้นต้นแล้ว 72 ราย และมีเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ ร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหายต่างทยอยเดินทางขอรับการช่วยเหลือด้วย
ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยกำลังออกติดตามรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดขับหลบหนี โดยให้จัดชุดไล่ล่าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายทันที และยังได้กำชับหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่ายทั้ง 4 จังหวัด เร่งติดตามรถยนต์ รถที่ถูกโจรกรรม และที่มีการออกโปสเตอร์แจ้งเตือนเป็นรถเฝ้าระวังต้องสงสัยนำไปก่อเกตุระเบิดคาร์บอมบ์ โดยเน้นย้ำให้ทุกจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้น และความถี่ในการตั้งจุดตรวจรถ และบุคคลต้องสงสัยที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมา
พร้อมกับให้จัดชุดลงพื้นที่ออกติดตามหาข่าวในเชิงลึกตามอู่ หรือหมู่บ้านที่พบเห็นรถตามแจ้งประกาศเตือน เพื่อเป็นการกดดัน และจำกัดป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยังคงมีความพยายามก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะด้วยการระเบิดสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายช่วงรอยต่อเหตุวุ่นวายทางการเมืองจนการประกาศรัฐประหาร และยังเน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตนในส่วนของประชาชนในห้วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การปฏิบัติงานของหน่วยกำลังในพื้นที่สามารถปฏิบัติงานดูแลความสงบเรียบร้อยได้ง่ายยิ่งขึ้น
วันนี้ (26 พ.ค.) นายวิทยา พานิชพงศ์ ผวจ.ปัตตานี ได้ให้ศูนย์เยียวยาร่วมกับ อ.เมืองปัตตานี ใช้พื้นที่บริเวณภายในโรงพยาบาลปัตตานี กางเต็นท์ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์แจ้งความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีญาติผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางลงชื่อในขั้นต้นแล้ว 72 ราย และมีเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ ร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหายต่างทยอยเดินทางขอรับการช่วยเหลือด้วย
ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยกำลังออกติดตามรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดขับหลบหนี โดยให้จัดชุดไล่ล่าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายทันที และยังได้กำชับหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่ายทั้ง 4 จังหวัด เร่งติดตามรถยนต์ รถที่ถูกโจรกรรม และที่มีการออกโปสเตอร์แจ้งเตือนเป็นรถเฝ้าระวังต้องสงสัยนำไปก่อเกตุระเบิดคาร์บอมบ์ โดยเน้นย้ำให้ทุกจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้น และความถี่ในการตั้งจุดตรวจรถ และบุคคลต้องสงสัยที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมา
พร้อมกับให้จัดชุดลงพื้นที่ออกติดตามหาข่าวในเชิงลึกตามอู่ หรือหมู่บ้านที่พบเห็นรถตามแจ้งประกาศเตือน เพื่อเป็นการกดดัน และจำกัดป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยังคงมีความพยายามก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะด้วยการระเบิดสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายช่วงรอยต่อเหตุวุ่นวายทางการเมืองจนการประกาศรัฐประหาร และยังเน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตนในส่วนของประชาชนในห้วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การปฏิบัติงานของหน่วยกำลังในพื้นที่สามารถปฏิบัติงานดูแลความสงบเรียบร้อยได้ง่ายยิ่งขึ้น