ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ทลายแก๊งบัตรเอทีเอ็มปลอม รวบ 3 ผู้ต้องหาชาวรัสเซีย พร้อมของกลางหลายรายการ
เวลา 16.30 น. วันนี้ (17 พ.ค. 57) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง พงส.ผทค.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ หรือ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายดมิทรี่ มินกิน (Mr.Dmitrii Minkin) อายุ 30 ปี นายอเล็กซานเดอร์ ลี (Mr.Aleksandr Li) อายุ 37 ปี และ นายอเล็กซานเดอร์ ลิดเซียฟ (Mr.Aleksandr Lidzhiev) 3 ผู้ต้องหาชาวรัสเซีย แก๊งใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมตระเวนกดเงินในเมืองพัทยา พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 88 ใบ เครื่องบันทึกข้อมูลลงแถบแม่เหล็ก หรือเครื่องสกิมเมอร์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง กล้องแอบถ่าย 6 ตัว และเงินสดจำนวน 12,000 บาท
พล.ต.ต.คัชชา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ว่า มีแก๊งต่างชาตินำบัตรเอทีเอ็มปลอมมาตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ชิตเดชา สองห้อง ในฐานะหัวหน้า ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังตำรวจออกสืบสวนหาข่าว กระทั่งพบผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่กลางซอยบัวขาว พัทยากลาง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับทำการตรวจค้นในตัวทั้ง 3 คน พบของกลางบัตรเอทีเอ็มปลอมบางส่วน ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในห้องพักหมายเลข C2608 ลุมพินีคอนโดมิเนียม ถ.เลียบชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง และยึดของกลางเพิ่มเติมดังกล่าว
จากการสอบปากคำทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เพิ่งเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค. ก่อนนำบัตรเอทีเอ็มปลอมที่มีเพื่อนร่วมแก๊งชาวรัสเซียเอามาให้ ไปตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มในเขตเมืองพัทยา พอได้เงินก็จะโอนกลับไปประเทศรัสเซีย และจะได้ส่วนแบ่งจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์จากเงินทั้งหมดที่กดได้ โดยข้อมูลในบัตรจะเป็นของเหยื่อในประเทศรัสเซีย และที่ผ่านมาสามารถกดเงินไปได้แล้วประมาณ 500,000 บาท นอกจากนี้ ยังไปซื้อกล้องแอบถ่ายขนาดจิ๋วที่ตึกคอมพัทยาใต้ เตรียมไว้ติดตั้งตามตู้เอทีเอ็ม เพื่อล้วงข้อมูลในบัตรที่มีผู้นำไปกดแล้วถ่ายโอนข้อมูลลงในเครื่องสกิมเมอร์ แต่ก็มาถูกตำรวจจับได้เสียก่อน
ภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง, ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป