xs
xsm
sm
md
lg

เหนือยังอันตราย สั่ง 68 หมู่บ้านน่านบนลอยเลื่อนปัวระวัง บ้าน-ร.ร.เชียงรายเสียหายเกือบหมื่นหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลรักษาการให้ “ปลอด” คุมแก้ปัญหาแผ่นดินไหวภาคเหนือ รักษาการ มท.1 สั่งแต่ละหน่วยนำงบในมือช่วยชาวบ้านก่อน ถ้าไม่พอจะใช้เงินทดรองจ่ายช่วยต่อ สั่งเฝ้าระวัง 68 หมู่บ้าน จ.น่าน บนลอยเลื่อนปัว “จารุพงศ์” ฟิวส์ขาด! ฉุนถูกถามเขื่อนแม่สรวยร้าวหลังแผ่นดินไหว บอกอย่ากวน ด้าน “จาตุรนต์” ตรวจโรงเรียนทั่วเชียงราย-พะเยา พบเสียหาย 73 แห่ง มูลค่า 150 ล้านบาท ส่วนวัดร่องขุ่นเปิด 8 พ.ค.สรุปภัยพิบัติทำชาวบ้านเดือดร้อนเกือบ 2 หมื่นครัวเรือน เกือบ 5.5 หมื่นคน เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 23 ราย บ้านเรือนพังทั้งหลัง 12 หลัง เสียหายบางส่วนเกือบหมื่นหลัง วัด-สถานที่ราชการอีกอื้อ ล่าสุด พบโบราณสถาน 17 แห่งยอดหัก แตกร้าว

วานนี้ (7 พ.ค.) หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ วัดความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ 6.3 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อเย็นวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นตามมาเกือบ 300 ครั้ง จนถึงเช้าวานนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน ตลอดจนอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมถึงถนนหลายเส้นทาง

ขณะที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งสรุปความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวใน 7 อำเภอ 45 ตำบล 519 หมู่บ้าน ว่า มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 18,488 หลังคาเรือน จำนวนประชาชนที่ประสบเหตุ 54,542 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 23 ราย บ้านเสียหายทั้งหลัง จำนวน 12 หลัง เสียหายบางส่วนเพิ่มจากเดิมเป็น 8,371 หลัง วัด 63 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง สถานที่ราชการ 31 แห่ง ซึ่งรวมถึงอาคารศาลากลาง จ.เชียงราย ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประชุมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีโรงแรม 1 แห่ง สะพาน 4 แห่ง ถนน 5 สาย อาคารชุมชน 1 แห่ง ระบบไฟฟ้า 2 แห่ง และท่อส่งน้ำประปาหมู่บ้าน 1 แห่ง

**“ชาวห้วยส้านยาว” ผวาไม่กล้ากลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงวันนี้ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทางอำเภอ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงราย จัดไว้ตามโรงเรียนต่างๆ โดยมีการกางเต็นท์ จัดหาอาหาร น้ำดื่ม และพยาบาลให้การดูแล

โดยเฉพาะศูนย์ช่วยเหลือโรงเรียนบ้านห้วยส้านยาว หมู่ 13 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว มีชาวบ้านมาอาศัยอยู่กว่า 200 คน เนื่องจากไม่กล้ากลับบ้านตัวเอง ขณะที่อาฟเตอร์ช็อกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทิ้งระยะห่างมากกว่าวันที่ผ่านมา

นางคำมา สุขอินทร์ อายุ 61 ปีชาวบ้านเลขที่ 129 บ้านห้วยส้านยาว กล่าวว่า หลังเกิดเหตุไม่เคยเข้าไปเก็บข้าวของในบ้านเรือนตัวเองเลย ทราบเพียงว่าบ้านเสียหาย แต่ไม่กล้าขึ้นไป เพราะกลัวจะล้ม และเกิดแผ่นดินไหวหนักอีก เนื่องจากหลังจากนั้นก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้งด้วย ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือเป็นหลักจนกว่าจะมั่นใจว่ากลับเข้าบ้านได้

**“จาตุรนต์” ตรวจโรงเรียนเสียหายเพียบ

ขณะที่รักษาการรัฐมนตรีหลายกระทรวง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินทางตระเวนตรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ในพื้นที่

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เดินทางเข้ารับฟังการบรรยายสรุปสภาพความเสียหายของโรงเรียนในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวโดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า โรงเรียนมัธยมที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.เชียงราย มีกว่า 10 แห่ง และโรงเรียนมัธยมใน จ.พะเยา มี 3 แห่ง ซึ่งโรงเรียนบางแห่งยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ต้องรอให้วิศวกรของทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เข้ามาตรวจสอบเกี่ยวกับโครงสร้างอาคารว่าจะยังสามารถใช้การได้หรือไม่

โดยนายจาตุรนต์ ได้กำชับให้ผู้บริหารสถานศึกษาว่า หากโรงเรียนใดยังสงสัยว่าอาจไม่ได้รับความปลอดภัยก็อย่าเพิ่งเข้าใไปในสถานที่ รอให้ทางวิศวกรเข้ามาตรวจสอบก่อน และให้ทางวิศวกรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญประเมินก่อนว่าสามารถเปิดใช้การเรียนการสอนได้จึงเข้าไปใช้อาคาร แต่หากยังไม่ได้รับการตรวจจากทางวิศวกรก็อย่าเพิ่งเปิดใช้อาคาร เพราะอาจเกิดความสูญเสียซ้ำขึ้นอีก

**เผย ร.ร.เสียหาย 73 แห่ง มูลค่า 150 ล้าน

นายจาตุรนต์ กล่าวภายหลังเดินทางเข้ารับฟังการบรรยายสรุปสภาพความเสียหายของโรงเรียนในพื้นที่ จ.เชียงราย จากเหตุแผ่นดินไหวว่า ขณะนี้โรงเรียนในพื้นที่ จ.เชียงราย ทั้งระดับประถม มัธยม และอาชีวะ ได้รับความเสียหายรวม 73 แห่ง และโรงเรียน 5 แห่ง ได้รับความเสียหายหนักไม่สามารถเข้าใช้อาคารเรียนได้ เช่น โรงเรียนแม่ลาววิทยาคม โรงเรียนพานพิทยาคม ที่ต้องมีการพิจารณาทุบอาคารทิ้งรวม 8 อาคาร

“จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท และได้กำชับให้ผู้บริหารสถานศึกษา เล็งเห็นถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ พร้อมกับพิจารณาสร้างอาคารเรียนชั่วคราวให้นักเรียนได้ใช้ทันเปิดการศึกษาใหม่ ในวันที่ 16 พ.ค.นี้”

ทางด้านของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ เปิดเผยว่า เตรียมเปิดวัดร่องขุ่น ให้ประชาชนได้เข้าชมรอบตัววัดวันพรุ่งนี้ แต่ในส่วนของตัวโบสถ์ที่ได้รับความเสียหายนั้น จะต้องปิดไว้ก่อนเพื่อรอตรวจโครงสร้าง ส่วนการบูรณะนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี

**รบ.ส่ง “ปลอด” คุมแก้ปัญหาแผ่นดินไหว

ส่วนที่ศาสากลางจังหวัดเชียงราย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รักษาการ รมช.มหาดไทย นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาแผ่นดินไหวและช่วยเหลือประชาชน

โดยนายจารุพงศ์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ครม.มีมติเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวภาคเหนือ โดยให้ดำเนินการภายใน 15 วัน โดยให้แต่ละหน่วยงานนำงบประมาณที่มีอยู่แล้วแก้ปัญหา และช่วยเหลือชาวบ้านไปก่อน หากไม่เพียงพอก็จะมีการสนับสนุนงบประมาณภายใต้กรอบวงเงินทดลองจ่ายประมาณ 500 ล้านบาท เบื้องต้นให้ใช้งบประมาณของจังหวัด 20 ล้านบาท กรมบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 50 ล้านบาทก่อน เมื่อหมดก็จะจัดสรรงบประมาณตามกรอบวงเงินที่อนุมัติต่อไป

นายวิสาร กล่าวว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวภาคเหนือ ที่ตั้งขึ้นนี้มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งจะเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกรอบเวลาที่กำหนด สำหรับงบประมาณจะมีการใช้งบประมาณสำรองจ่ายฉุกเฉินที่สำนักงบประมาณได้ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ไม่ต้องไม่อนุมัติผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหามีทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และระยะยาว

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ทางจังหวัดต้องเร่งแก้ไขมีอยู่หลายเรื่องหลักๆ คือ แก้ปัญหาเรื่องขวัญกำลังใจ และความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่ไม่กล้ากลับเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านเรือนของตัวเองเพราะเกรงจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอีก และบ้านเรือนส่วนใหญ่ก็เสียหายด้วย และมีอาฟเตอร์ช็อก 274 ครั้ง รวมทั้งเกิดกระแสข่าวลือตามโซเชียลมีเดียมากมาย โดยเฉพาะเขื่อนแม่สรวย ร้าว การเสียชีวิต ฯลฯ ซึ่งมีความจำเป็นต้องให้ความมั่นใจแก่ชาวบ้านเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ส่วนเรื่องการแก้ไขความเสียหายสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ขณะนี้ได้ระดมกำลังทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ วิศวกร เข้าไปตรวจสอบบ้านเรือนร่วมกับแต่ละอำเภอ “ผมได้สั่งการไปทุกอำเภอแล้วเพื่อให้ชาวบ้านมั่นใจในบ้านเรือนของตัวเองซึ่งการดำเนินการจะทำภายใน 10 วัน”

**สั่งเร่งช่วยเหลือเหยือแผนดินไหว 14 จว.

นอกจากนี้ รักษาการ รมว.มหาดไทย ได้ประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลกับผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดทางภาคเหนือ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว เตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ปัญหาภัยธรรมชาติอันเกิดจากแผ่นดินไหว ซึ่งอาจมีผลทำให้หินหน้าผาแผ่นดินถล่มเคลื่อนตัวลงมาในระยะนี้ได้ พร้อมได้สั่งให้แต่ละจังหวัดติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังติดตามตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัย เส้นทาง เขื่อน ฝาย รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ถ้าไม่มีความแข็งแรงพิจารณาแล้วอันตรายให้อพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย และแก้ไขโดยด่วน

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ศอร.ปภ.ช.) ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสั่งการแก้ไข้ปัญหา และประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับจังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

**สั่งเฝ้าระวัง 68 หมู่บ้าน บนรอยเลื่อนน่าน

ด้านนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยหลังประชุมว่า ส่วนของจังหวัดน่าน ขณะนี้ได้เฝ้าระวังสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก จ.น่าน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เสี่ยงภัยมีรอยเลื่อนปัว ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังงานระดับกลางพาดผ่าน 6 อำเภอ 17 ตำบล 68 หมู่บ้านใน จ.น่าน อีกทั้งยังเคยมีประวัติเคยเกิดแผ่นไหวขนาด 7 ริกเตอร์ เมื่อปี 2475

โดยได้กับประสานท้องถิ่น ให้ใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยที่ประจำอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยงภัย พร้อมออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันตัว และรับมือกับภัยธรรมชาติ

**“จารุพงศ์” ฉุนถูกถามเขื่อนแม่สรวยร้าว

ต่อมา รักษาการ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะวิศวกรจากกรมชลประทาน ได้ไปตรวจเขื่อนแม่สรวย ซึ่งกั้นน้ำแม่สรวย ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย หลังเกิดความกังวล และคำถามในสังคมบางส่วนว่ามีรอยแตกร้าวที่เขื่อน หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง โดยคณะวิศวกรพร้อมด้วยผู้บริหารโครงการชลประทานเชียงรายได้ให้ข้อมูลว่า เขื่อนดังกล่าวสร้างเมื่อปี 2541 มีความจุ 73 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหลืออยู่ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60

จากนั้น นายจารุพงศ์ และคณะได้เดินตรวจสอบบนสันเขื่อนเพื่อยืนยันถึงความแข็งแรง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคอนกรีตทางฝั่งซ้ายเหนือหินสันเขื่อนมีรอยร้าวอยู่ จึงมีสื่อมวลชนพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจากนายจารุพงศ์ และวิศวกรใหญ่จากกรมชลประทาน ทำให้นายจารุพงศ์ แสดงอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด และเกือบจะเดินออกจากบริเวณสันเขื่อนด้วย

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เขื่อนแห่งนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้กว่า 7 ริกเตอร์ ขณะที่แผ่นดินไหวที่ผ่านมา มีความแรงแค่ 6.3 ริกเตอร์ และวิศวกรของกรมชลประทานได้เข้าไปตรวจสอบก็ยืนยันว่า มีความแข็งแรง การที่มีการกระจายข่าวทางโซเชียลมีเดียว่าให้ระวังเขื่อนจะแตก ให้อพยพออกจากพื้นที่นั้น เป็นการกระทำของพวกอุตริ อยากสร้างความวุ่นวาย และเป็นพวกโรคจิต

“ยืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นเรื่องจริง และยืนยันว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้มีอันตรายต่อตัวเขื่อน ส่วนที่เห็นเป็นรอยอยู่ก็ไม่เกี่ยวกับโครงสร้างของเขื่อน”

**เผยคมนาคมเสียหายร่วม 100 ล้านบาท

ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย ระหว่างโดยสารรถบัส 2 ชั้น จากสถานีขนส่งหมอชิตเดินไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุถนนสายอำเภอเมืองตาก-อำเภอแม่สอด ว่า ขณะนี้กำลังเร่งให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางซ่อมแซมถนนสาย 188 ระหว่างเชียงราย กับเชียงใหม่ โดยให้ขยายไหล่ทาง และทำทางเบี่ยงให้รถวิ่งไปมาสะดวก ส่วนที่พังให้รื้อ และให้ทำสู่สภาพปกติ ส่วนจุดที่มีดินถล่มคงใช้ระยะเวลา 4 วัน

“สำหรับความเสียหายในส่วนของกระทรวงคมนาคม มีมูลค่าอยู่ที่ 50-100 ล้านบาท จริงๆ ไม่ได้เสียหายมากอย่างที่คิด ส่วนโครงสร้างตัวอื่น เช่น สะพาน ท่าอากาศยาน มีรอยร้าวตามผนังเล็กน้อย ยังใช้งานได้ตามปกติ ส่วนภาพรวมทั้งหมดต้องใช้งบประมาณอีกครั้งหนึ่ง”

**พศ.เผย 12 วัดในเชียงรายเสียหายหนัก

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ในส่วนของ พศ.ได้รับรายงานว่า มีวัดได้รับความเสียหายทั้งหมด 3 อำเภอ รวม 12 แห่งใน อ.เมือง อ.พาน อ.แม่ลาว ได้แก่ อ.พาน มีวัดอุดมวารี พระพุทธรูปใหญ่เศียรหัก วัดทรายขาว ผนังวิหารร้าวเพดานถล่ม วัดทุ่งพร้าว เพดานถล่มทับเศียรพระพุทธรูปหัก วัดแม่คาววัง ผนังวิหารร้าว วัดป่ารวก เพดานถล่ม

ส่วนที่ อ.แม่ลาว วัดบุญเรือง เพดานถล่ม และผนังวิหารร้าว วัดห้วยส้านพลับพลา วิหาร และกุฏิร้าว วัดเวฬุวัน กระเบื้องเพดานวิหาร และกุฏิสงฆ์ยุบ วัดเหมืองลึก เพดานวิหารกุฏิพระสงฆ์ยุบและพัง วัดดอยหม้อ กระเบื้องเพดานวิหาร กุฏิสงฆ์พัง และ อ.เมือง ได้แก่ วัดร่องขุ่น ศาลาได้รับความเสียหาย และยอดฉัตรเอียง ตัววิหารร้าว และพุทธมณฑล จ.เชียงราย พระประทานสิงห์หนึ่งพระศอร้าว อย่างไรก็ตาม ทาง พศ.จะรวบรวมข้อมูลของความเสียหายทั้งหมดเพื่อเสนอต่อรัฐบาลในการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป

**พบโบราณสถานยอดหัก-แตกร้าว 17 แห่ง

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย สำนักศิลปากรที่ 7 น่าน และสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ว่า มีโบราณสถานได้รับความเสียหายจาก 11 แห่ง เป็น 17 แห่ง ส่วนใหญ่ยอดหัก เอียงตามแรงหวี่ยงของแผ่นดินไหว รวมไปถึงโครงสร้างแตกร้าวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีแห่งใดพังทลายทั้งหมดอาจเนื่องมาจากภูมิปัญญาของคนในอดีตก่อสร้างเจดีย์ต่างๆ รองรับแผ่นดินไหว

นายเอนก กล่าวว่า แหล่งโบราณสถานที่เสียหายเพิ่มเติมที่สำคัญ ได้แก่ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระบรมธาตุนครชุม จ.กำแพงเพชร ในเบื้องต้นมีรอยแตกร้าวซุ้มพระพุทธรูป พื้นดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ ตนจะเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสภาพความเสียหายของโบราณสถานทั้งหมด 16 แห่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา เชียงราย โดยนำวิศวกรไปตรวจสอบสภาพที่หัก แตกร้าว รอยแยกเพื่อ ประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ภายหลังตรวจสอบเสร็จจะนำมาวางแผนทำเป็นแผนผังรายละเอียดทั้งหมด ประเมินงบประมาณในการบูรณะเสนอต่อกระทรวงวัฒนธรรมต่อไป

**ปลัด สธ.เผย รพ.เชียงรายบริการตามปกติ

ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒธ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสถานบริการ 3 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ได้แก่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.แม่ลาว และ รพ.สต.ดงเทพนิมิตร อ.เมืองเชียงราย ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของโรงพยาบาลต่างๆ ในเบื้องต้นโครงสร้างหลักของ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และ รพ.แม่ลาว ไม่ได้รับการกระทบกระเทือน ได้รับความเสียหายที่ผนังมีรอยร้าวสามารถให้บริการปกติ หากไม่มีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกซ้ำขึ้นอีกก็สามารถขนย้ายผู้ป่วยกลับเข้าภายในอาคารได้ สำหรับ รพ.สต.ดงเทพนิมิตร อาคารสถานีอนามัยได้รับความเสียหาย แต่สามารถให้บริการประชาชนได้ที่อาคารหลังเก่าซึ่งใช้การได้ดี

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานในส่วนของโรงพยาบาลพาน อาคารหลังเก่าพัง ส่วนหลังใหม่สามารถใช้การได้ ซึ่งทีมช่างยืนยันว่า โครงสร้างหลักของโรงพยาบาลยังอยู่ ทั้งนี้ อาคารของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่สร้างหลังปี 2540 จะมีการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้มีการประชุมผู้ตรวจราชการกระทรวง และเครือข่ายบริการสุขภาพเขต 1 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ หรือภัยพิบัติต่างๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และขณะเดียวกัน ต้องเตรียมความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่





กำลังโหลดความคิดเห็น