กาญจนบุรี - พ่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปืนโหด เมืองสุพรรณบุรี มือยิงเลขา อบต.พิหารแดง พาลูกชายเข้ามอบตัวหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันหนัก พร้อมคุมตัวทำแผน ท่ามกลางไทยมุง สารภาพโทสะถูกผู้ตายด่าทอ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนางสิงหา คุ้มบุญ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ 6 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เลขานายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พิหารแดง ถูกนายธีรศักดิ์ เจริญสุข อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 6 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.พิหารแดง ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอกเกือบ 10 นัด เสียชิวตคาที่ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปอย่างรวด เหตุเกิดวันที่ 23 เม.ย.ที่หน้าทางขึ้นองค์การบริหารส่วนตำบลพิหารแดง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 พ.ค.57) นายจำลอง เจริญสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมทนายได้นำตัวนายธีรศักดิ์ เจริญสุข ลูกชายเข้ามอบตัว ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี พล,ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อนุสรณ์ วนาปกรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวสีทอง รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สุมนตรี กรรณเลขา ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธนวิทย์ กาญจนนฤนาท พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.เทอดไทย สุขไทย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ ร.ต.ท.ประเทือง น้ำดอกไม้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รอรับตัวผู้ต้องหา หลังจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวอาวุธปืนที่ใช่ก่อเหตุมอบให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงนำตัวเข้าห้องประชุม ภ.จว.สุพรรณบุรี เพื่อสอบปากคำ เพื่อเตรียมคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวถือว่าเป็นการลงมือก่อเหตุที่อุกอาจเป็นอย่างมาก เพราะนางสิงหา ผู้เสียชีวิต เป็นถึงเลขานายก อบต.ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขณะก่อเหตุมีข้าราชการ พนักงาน อบต.รวมทั้งประชาชนที่มาใช้บริการ ที่ อบต.เป็นจำนวนมาก ภายหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมหลักฐานจนสามารถออกหมายจับได้ ตลอดระยะเวลา 8 วันหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปตามพื้นที่ต่างๆที่คาดว่าผู้ต้องหาจะใช้หลบซ่อนตัว พร้อมทั้งวางกำลังเพื่อกดดันให้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวด้วยตนเอง จนในที่สุด ผู้ต้องหาทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว จึงติดต่อให้นายจำลอง พ่อของตนเองพาเข้ามอบตัว ส่วนที่ผู้ต้องหานำทนายมาด้วยก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาทุกรายอยู่แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัวเพราะผู้ต้องหาได้ก่อเหตุร้ายแรงท่ามกลางสายตาผู้คนและก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
นายจิรศักดิ์ ผู้ต้องหา รับสารภาพโดยกล่าวอ้างว่า ก่อนลงมือก่อเหตุดังกล่าว ตนได้จ้างรถแบ็คโฮ ไปขุดดินในที่สาธารณะเพื่อนำมาถมที่ภายในบริเวณบ้าน เพื่อปลูกบ้านอีก 1 หลัง แต่นางสิงหา คุ้มบุญ เลขานายก อบต.ร้องเรียนไปยังนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายหลังได้มีคำสั่งให้ตนหยุด ตนจึงโมโห และรู้ดีว่าใครเป็นคนฟ้องร้องให้นายอำเภอส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตนจึงถกเถียงกับนางสิงหา ทางโทรศัพท์
นางสิงหาท้าทายว่า หากแน่จริงไปเจอกับลูกชายตนก็ได้ไม่นานก็วางหู ต่อมานางสิงหา ได้โทรศัพท์เข้ามาท้าทายให้ตนไปเจอที่ อบต.จึงเกิดความโมโหขึ้นมาอีก จึงตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาที่ อบต.เมื่อไปถึงจึงเรียกให้ลงมาเคลียร์ปัญหากันด้านหน้า อบต.เมื่อนางสิงหา ลงมาถึงก็ได้พูดจาด่าทอตนจนทนไม่ไหวจึงเกิดบันดาลโทสะขึ้นมาจึงคว้าอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่เตรียมมายิงกระหน่ำใส่นางสิงหาอย่างไม่ยั้งมือ จนล้มลงเสียชีวิตคาที่
หลังก่อเหตุ ตนจึงรีบเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์กลับไปที่บ้าน จากนั้นเก็บเสื้อผ้าที่จำเป็นแล้วขับรถยนต์กระบะหลบหนีไปอาศัยอยู่บ้านของเพื่อนที่อำเภอบางนา ภายหลังเห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์และทีวี จึงเกิดความกดดัน และเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจประสานให้พ่อพาเข้ามอบตัวในวันนี้
รายงานข่าวว่า หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ พร้อมมอบอาวุธปืนที่ใข้ก่อเหตุมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ต้องสวมเสื้อเกาะป้องกันอันตราย ขณะทำแผนมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น