พัทลุง - เขยโหดถูกญาติภรรยาเคือง ตบน้องสาวจับซ้อมสะบักสะบอม ซัด 9 มม.ดับภรรยา และแม่ยายดับคาตลาดตอนย่ำรุ่ง กระสุนยังพลาดไปถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกรวบทันควันรับสารภาพสิ้นพร้อมปืนของกลาง และยังพบยาบ้าอีก 74 เม็ด
วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า ร.ต.อ.ฉลอง ขุนภักดี พนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุยิงกันตาย 1 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และได้เสียชีวิตที่ รพ.ควนขนุน ในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดในบริเวณตลาดสดเทศบาลเทศบาลควนขนุน ท้องที่ ม.9 ต.ควนขนุน ในเขตเทศบาลควนขนุน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.คณิต รัตนมณี ผกก.สภ.ควนขนุน พ.ต.ท.รณน สุระวิทย์ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.ปัญจวิทย์ เกื้อกอบ รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.ธัญญา สังข์ศิลป์ชัย พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ พ.ต.ท.กิตติพัฒน์ วัฒนเสน สวป. พ.ต.ท.ศรัญภัทร สุทธินุ่น สว.สส. ร.ต.อ.สาธิต คงแก้ว รอง สว.สส. นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล และร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร รพ.ควนขนุน
อย่างไรก็ตาม ในที่เกิดเหตุ ตร.พบพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน ยืนมุงดูเหตุการณ์ประมาณ 300 คน หลังจากตำรวจนำผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ก็พบศพ น.ส.ชลธิชา ณ พัทลุง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/2 ม.11 ต.ตำนาน อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดข้างร้านขาวแกงของตนเองในลักษณะนอนหงายหน้า สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณท้ายทอยด้านขวา กระสุนทะลุกกหูซ้าย 1 นัด บริเวณหน้าอกกระสุนทะลุด้านหลัง 1 นัด และบริเวณเท้าขวา 1 นัด รวม 3 นัด ส่วนผู้ที่เสียชีวิตใน รพ.ควนขนุน ทราบชื่อภายหลังว่า นางอรุณ พัทลุง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.8 ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.ชลธิชา โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณขมับซ้าย 1 นัด และบริเวณหน้าท้องเหนือสะดือ 1 นัด รวม 2 นัด ส่วนในที่เกิดเหตุ ตร.พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 5 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไปเป็นหลักฐานในการประกอบคดีต่อไป ส่วนชาวบ้านที่โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บรายนี้ คือ นางสุจิตรา เพชรวา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/2 ม.5 ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณแขนขวา 1 นัด
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ น.ส.ชลธิชา และนางอรุณ ผู้เป็นมารดากำลังขายแกงอยู่ในตลาดสดดังกล่าว ก็ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นเวฟ สีดำ (ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน) เข้ามาจอดบริเวณหน้าตลาดสด จากนั้น 1 ใน 2 คนร้ายก็เดินเข้ามาในตลาดบริเวณหน้าร้านขายแกงถุงดังกล่าว จากนั้นคนร้ายก็ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ 2 แม่ลูกแบบไม่ยั้งมือ ท่ามกลางความตื่นตกใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่เข้ามาซื้อของในตลาดประมาณ 400 คน จากนั้นได้วิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คนร้ายที่จอดรออยู่ และขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล
อย่างไรก็ตาม จากการสืบทราบของ พ.ต.อ.คณิต รัตนมณี ผกก. ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวน่าจะเป็นสามีของ น.ส.ชลธิชา ซึ่งเคยมีปากเสียงกันทางโทรศัพท์เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ดังนั้น ในตอนสายวันนี้จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศรัญภัทร สุทธินุ่น สว.สส และ ร.ต.อ.สาธิต คงแก้ว รอง สว.สส. พร้อมพวกนำกำลังเข้าไปติดตามนายอนันติชัย ทองพลอย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/2 ม.11 ต.ตำนาน อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ผู้เป็นสามีผู้ตายเพื่อนำมาสอบปากคำ เมื่อเห็นหน้าตำรวจนายอนันติชัย ก็ได้เปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารภรรยา และแม่ยายของตนเอง
จากนั้นได้นำตำรวจไปเอาปืนของกลางที่ซ่อนอยู่ในคอกเลี้ยงวัวชน ท้องที่ ม.2 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง โดยอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวถูกซ่อนอยู่ในลังกระดาษพร้อมกระสุน 4 นัด ซองบรรจุกระสุนปืน 1 ซอง เมื่อเปิดกล่องกระดาษออกมา ตร.ก็พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก 74 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์นั้น ขณะนี้ ตร.ทราบชื่อแล้วเช่นกัน
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ รมยานนท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้เดินทางมายัง สภ.ควนขนุน เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งให้กำลังใจแก่ตำรวจในการพิชิตคดีดังกล่าว และเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่นายอนันติชัย ยิงภรรยา และแม่ยายตนเองนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้นายอนันติชัย ได้มีปากเสียงกับภรรยาที่นายอนันติชัย ไม่ไปรับบุตรชายกลับจากโรงเรียนในตอนเย็นจนมีปากเสียงกัน จนทำให้นายอนันติชัย เกิดบันดาลโทสะ และใช้มือตบหน้าภรรยาผู้ตาย 2 ครั้ง จากนั้นก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์อกจากบ้านไป ส่วนภรรยาก็ได้กลับมายังบ้านของตนเองในพื้นที่ ม.8 ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
ต่อมา ในเวลาประมาณ 01.30 น. คืนวันนี้ นายอนันติชัย ได้เข้าไปเที่ยวในคันทรี่โฮมในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง และได้พบกับนายกร (ไม่ทราบสกุล) ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.ชลธิชา และได้มีปากเสียงกัน ต่อมา นายกร พร้อมพวกอีก 2 คน ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มายังคอกเลี้ยงวัวที่นายอนันติชัย พักอยู่ และได้รุมทำร้ายร่างกายนายอนันติชัย จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ ตร.เข้ามาในที่เกิดเหตุ นายอนันติชัย ก็ปฏิเสธที่จะให้ตำรวจดำเนินคดีต่อกลุ่มของนายกร แต่บอกว่าหากตนทำอะไรลงไปเพื่อระบายความแค้นก็ขอให้นายกร อย่างเอาเรื่องกับตนเช่นกัน จนนายอนันติชัย ก็ได้มาก่อคดีโหดกับภรรยา และแม่ยายดังกล่าว