แฉนายทุนแสบซุกเงินใต้โต๊ะ ก่อนรุกป่าแควน้อย-ตัดไม้ทิ้งเหลือแต่ตอ

พิษณุโลก - กอ.รมน.จังหวัดฯ พร้อมสายป่าไม้ภาคเหนือ สำนัก 4 พิษณุโลก นำเจ้าหน้าที่ลุยยึดผืนป่าคืนแผ่นดิน พบนายทุนจ้างชาวบ้านฟันไม้ล้มเกลื่อนจนเหลือแต่ตอนับพัน หัวหน้าสายตรวจลั่น นายทุนกล้าลงมือ เหตุมีจ่ายเคลียร์เจ้าหน้าที่

วันนี้ (1 พ.ค.) พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.พิษณุโลก, นายสักรินทร์ ปัญญาใจ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ, นายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้กว่า 30 นาย ได้บุกเข้าตรวจยึดผืนป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติสองฝั่งลำน้ำแควน้อย บริเวณท้ายหมู่บ้านเนินสุวรรณ หมู่ 15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ถูกนายทุนบุกรุกครอบครอง

นายสักรินทร์ ปัญญาใจ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ผืนป่าสงวนแห่งชาติสองฝั่งลำน้ำแควน้อยที่ถูกบุกรุกทำลายครั้งนี้ส่วนใหญ่อยู่ท้ายสวนยางพารา เป็นฝีมือจากนายทุนว่าจ้างชาวบ้านถางป่าใหม่ ล้มไม้ และทำการเผาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ทราบว่ามีการเคลียร์ให้เจ้าหน้าที่รัฐระดับ 2 แสนบาทก่อนลงมือ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าทำ

นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า ผืนป่าบางแปลงมีการสำรวจการถือครองตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 ซึ่งรัฐไม่ควรออกให้ เพราะไม่ได้ทำกินหรือทำประโยชน์มาก่อน แต่ในข้อเท็จจริงกลับพบว่ามีการขายต่อหลายทอด โดยมีนายทุนจากภาคใต้เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย

ด้านนายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันฯ เปิดเผยว่า ผืนป่าที่ถูกทำลายแปลงนี้บางส่วนมีการสำรวจถือครองไปแล้ว ซึ่งสามารถสืบหาผู้ถือครองได้ไม่ยาก อธิบดีกรมป่าไม้ และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกต้องการจับตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ เพราะสร้างความสูญเสียให้แก่รัฐ เบื้องต้นตรวจนับไม้ที่ถูกโค่นล้มไม่ต่ำกว่า 500 ท่อน และพบว่ามีไม้เล็กๆ ล้มคาตออีกกว่าพันต้น เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 50 ไร่

พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า การลักลอบล้มป่าใหม่ครั้งนี้ ผู้ว่าฯ สั่งการให้ดำเนินคดีให้เด็ดขาด เพราะเป็นฝีมือนายทุนชัดเจน ล้มป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำกิน

ส่วนภาพรวมการบุกรุกป่าในพิษณุโลกถือว่ายังคงมีอยู่ เนื่องจากชาวบ้านขายที่ดินแล้วไปบุกรุกที่ทำกินใหม่ การแก้ปัญหาคือ ต้องให้ชาวบ้านยุติการขายที่ดินแก่นายทุนเพื่อตัดวงจร หากใครขายที่ดินเดิมควรยึดที่ดินคืนให้รัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ขนย้ายไม้ท่อนออกจากพื้นที่ไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พล.9 (ปากพาน) และเตรียมเรียกชาวบ้านมาทำการสอบสิทธิตามแปลงสำรวจถือครองที่ดินเพื่อหาผู้กระทำความผิด ก่อนส่งคดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฐานความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ต่อไป