เพชรบุรี - “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” พร้อม หน.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.6 เข้าให้ปากคำต่อศาลเพชรบุรี ตามหมายเรียกหลัง “เมียบิลลี่” พร้อมทนายความ และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลขอให้ปล่อยตัว “บิลลี่” เนื่องจาก “เมียบีลลี่” เชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่และถูก จนท.อุทยานฯควบคุมตัวไว้ โดยมีชาวบ้านและกลุ่มองค์กรเครือข่ายสิ่งแวดล้อมเพชรบุรีเข้าให้กำลังใจ และยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ขอความเป็นธรรมให้หัวหน้าอุทยานฯ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายเกษม ลือฤทธิ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ได้เดินทางมาให้ปากคำต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ตามหมายเรียกของศาลจังหวัดเพชรบุรี
หลังจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภรรยานายบิลลี่ หรือ นายละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงวัย 30 ปี นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ น.ส.ผรัณดา ปานแก้ว สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และคณะ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่ ต่อศาล
ทั้งนี้ เนื่องจากภรรยาของนายบิลลี่ เชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากตามข้อเท็จจริงค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่านายบิลลี่ ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ควบคุมตัวมาจริง เพียงแต่ว่าทางอุทยานฯได้อ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว แต่ทางภรรยานายบิลลี่ มองว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่น่าเชื่อถือว่าปล่อยตัวมาแล้ว ซึ่งทางภรรยาและญาติยังเชื่อว่านายบิลลี่ ถูกควบคุมตัวไป และยังไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมา จึงได้มายื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าขณะนี้นายบิลลี่ อยู่ที่ไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะถ้าทางอุทยานฯ ยังควบคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุมก็ต้องปล่อยตัวคืนตัวนายบิลลี่ ออกมา
และยังมีมูลเหตุอีกส่วนหนึ่งที่นายบิลลี่ เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีความที่เกี่ยวกับการที่ชาวกะเหรี่ยงที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีการดำเนินนโยบายของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เผาบ้าน และมีการฟ้องร้องในศาลปกครองอยู่ในขณะนี้ ตัวนายบิลลี่ เองก็เป็นบุคคลคนหนึ่งที่จะต้องไปเป็นพยานในศาล และมีผลในเรื่องคดีดังกล่าว เพราะฉะนั้นการที่นายบิลลี่ ได้มีความสำคัญในคดีดังกล่าวที่ฟ้องร้องกับกรมอุทยานฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ จึงได้มายื่นให้ศาลไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะถ้ายิ่งเนิ่นช้าไปก็จะยิ่งมีผลต่อความปลอดภัยต่อนายบิลลี่
วันนี้ (30 เม.ย.) ศาลจังหวัดเพชรบุรีจึงได้เรียกตัว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยนายชัยวัฒน์ เมื่อเดินทางมาถึง ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามทำข่าว พร้อมกับเดินเข้าไปในศาล โดยมีกลุ่มชาวบ้านยังคงปักหลักนั่งรออยู่นอกอาคาร ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการให้ปากคำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาให้ปากคำต่อศาลของนายชัยวัฒ์ ครั้งนี้ ได้มีชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยกลุ่มองค์กรเครือข่ายสิ่งแวดล้อม กลุ่มบุคคลที่รักและภูมิใจในการปฏิบัติงานของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกว่า 300 คนได้นำดอกไม้มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจแก่นายชัยวัฒน์ ด้วย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในสถานที่ราชการอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 09.30 น. ที่วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี กลุ่มองค์กรเครือข่ายสิ่งแวดล้อม กลุ่มบุคคลที่รักและภูมิใจในการปฏิบัติงานของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกว่า 300 คน ได้รวมตัวกันถือป้ายข้อความให้กำลังใจนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
พร้อมเข้ายื่นหนังสือต่อนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กรณีที่ถูกกลุ่ม NGO และกลุ่มชาติพันธุ์นอกพื้นที่โจมตีแบบบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำหน้าที่ปกป้องผืนป่าแก่งกระจาน และเชื่อว่าการหายตัวไปของนายบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงนั้นเป็นเรื่องที่จัดฉากขึ้นมาเพื่อหวังจะดำเนินการในเรื่องต้องการให้ย้ายนายชัยวัฒน์ ออกนอกกพื้นที่ ซึ่งหลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รับหนังสือขอความเป็นธรรมแล้วทางกลุ่มผู้ยื่นหนังสือต่างนำดอกกุหลาบมอบให้เป็นกำลังใจต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในการทำงานครั้งนี้ด้วย
