xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ กพฐ.สั่งเร่งสอบเชือด ผอ.ร.ร.-ครูบุรีรัมย์ฉาว คาด 15 วันรู้ผล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิชาต จีระวุฒิ เลขาธิการ กพฐ.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เลขาธิการ กพฐ.สั่งเร่งสอบข้อเท็จจริง เชือด ผอ.โรงเรียนและครูโรงเรียนบุรีรัมย์ฉาว โผล่เข้าสอบบรรจุครูผู้ช่วย คาด 15 วันรู้ผล

วันนี้ (29 เม.ย.) นายอภิชาต จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ที่ จ.นครราชสีมา ถึงการดำเนินการกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนและครูโรงเรียนใน จ.บุรีรัมย์เข้าสอบบรรจุครูผู้ช่วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ โดยเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำใน 4 จังหวัดด้วยกัน คือ จ.บุรีรัมย์ จ.สมุทรสาคร จ.นนทบุรี และ จ.กาญจนบุรี

ฉะนั้น การดำเนินการต้องหาข้อมูลครบทั้ง 4 แห่งนี้ เพราะข้าราชการครูเหล่านี้เป็นครูในสังกัดของ จ.บุรีรัมย์ แต่ไปสมัครสอบอยู่ 3 เขต คือ สมุทรสาคร, นนทบุรี และกาญจนบุรี

ดังนั้น จะต้องหาข้อมูลให้ครบก่อนถึงจะนำไปสู่ว่ามีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือไม่ ซึ่งการสอบสวนเรื่องนี้ตนให้เวลาดำเนินการ 15 วัน และช่วงเย็นวันนี้ ( 29 เม.ย.) คงได้ข้อมูลส่วนหนึ่งแล้ว

นายอภิชาตกล่าวต่อว่า พฤติกรรมดังกล่าวเรามองเห็นแล้วว่าเป็นการส่อกระทำผิด แต่มันต้องมีพยานหลักฐานหลายอย่าง เช่น 1. ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้นสำหรับการไปสมัครสอบหรือไม่ เพราะหลักเกณฑ์บอกว่าต้องขออนุญาตก่อน

2. มีการดำเนินการที่จะกระทำการอันเป็นการทุจริตหรือไม่ อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับพยานแวดล้อมด้วยเช่นเดียวกัน เพราะข้าราชการจะตั้งกรรมการสอบสวนต้องให้มีหลักฐานชั้นหนึ่งก่อน ไม่ใช่เพียงเป็นข่าวแล้วตั้งกรรมการสอบทันที

ส่วนต่อไปควรจะมีการรื้อกติกาใหม่และผู้สมัครสอบต้องจำกัดอายุหรือไม่นั้นคงไปจำกัดสิทธิไม่ได้ ซึ่งเมื่อก่อนตามกฎหมายเดิมมีการจำกัดอายุไม่เกิน 35 ปี ต่อมามาตรานี้ยกเลิกไป ปัจจุบันนี้คนอายุ 58 ปีก็สามารถสมัครสอบข้าราชการได้ เป็นข้าราชการ 2 ปีเกษียณแล้วก็มี

ฉะนั้น โดยเหตุที่เป็นการจำกัดสิทธิตามรัฐธรรมนูญคงทำไม่ได้ แต่คงกำหนดได้ว่าคนเป็นข้าราชการอยู่แล้วหากจะไปสอบต้องได้รับอนุญาตให้มันชัดเจนมากกว่านี้ ในแบบใบสมัครต้องระบุว่า เป็นผู้อำนวยโรงเรียน เป็นครูในโรงเรียน ต้องได้รับอนุญาตจากใคร ต้องบอกให้ชัดเจน ไม่ใช่ใช้คำว่า ผู้บังคับบัญชา เพราะมันกว้างไป

หากพบกระทำผิดมีโทษขั้นร้ายแรงขนาดไหนนั้น นายอภิชาตกล่าวว่า หากพบกระทำผิดต้องตั้งกรรมการสอบสวนก่อน หากมีการปลอมแปลงเอกสารด้วยก็ร้ายแรง ส่วนมีโทษขั้นแรงร้ายอะไรบ้างนั้นตอนนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย เป็นเพียงการสืบหาข้อเท็จจริงเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น