นครพนม - ชาวสวนลิ้นจี่แหล่งใหญ่ในตำบลขามเฒ่า เมืองนครพนม เร่งเก็บผลผลิตส่งจีนกว่า 30 ตัน หวั่นโดนพายุฤดูร้อนซัดถล่ม
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนมว่า เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่แหล่งใหญ่ใน 4 หมู่บ้านของ ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม กว่า 150 ราย เร่งทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดทำเงิน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนภัยพายุฤดูร้อนและอาจมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ อาจสร้างความเสียหายแก่เกษตรกรในภาคอีสาน 9 จังหวัด ได้ระมัดระวังจากวาตภัยดังกล่าว
นายสวัสดิ์ ภาษา วัย 68 ปี เกษตรกรดีเด่น หนึ่งในผู้ปลูกลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 กล่าวว่า ปลูกลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ไว้ 100 ไร่ ผลผลิตราว 200 ตันต่อปี ลิ้นจี่ที่ตำบลนี้ออกสู่ตลาดเร็วกว่าพันธุ์ฮงฮวยและพันธุ์จักรพรรดิที่นิยมปลูกในภาคเหนือ ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ของทุกปี ชาวสวนลิ้นจี่จำนวนหลายร้อยรายจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่จะพัดผ่าน เนื่องจากเป็นร่องมรสุมพัดผ่าน จึงต้องจ้างแรงงานกว่า 30 คนเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตที่กำลังสุกงอมให้ออกสู่ตลาดโดยเร็ว
ด้านนายวีรเดช ชามาตร นายก อบต.ขามเฒ่า กล่าวว่า พื้นที่ปลูกลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ในตำบลนี้มีชื่อเสียงมานาน มีข้อเด่นให้ผลผลิตเร็ว ลูกโต 22-26 ผลต่อ 1 กิโลกรัม น้ำไม่เยอะ ไม่ฉ่ำ และมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ มีเกษตรกรปลูกในพื้นที่ 150 ราย จำนวน 1,500 ไร่
โดยเฉพาะที่บ้านนาโดน หมู่ 4 หมู่ 11 และบ้านขามเฒ่า หมู่ 1 หมู่ 2 ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ปีนี้สภาพอากาศหนาวเย็นผลผลิตออกเยอะมากกว่า 500 ตัน โกยเงินเข้ากระเป๋าเกษตรกรแล้วกว่า 30 ล้านบาท
นายก อบต.ขามเฒ่าระบุด้วยว่า มีห้างค้าปลีกยักษ์แม็คโครในพื้นที่ติดต่อกับเกษตรกรเพื่อนำลิ้นจี่คัดเกรดที่ซื้อจากสวนในราคากิโลกรัมละ 80-90 บาท ไปขายกิโลกรัมละ 120-150 บาทจำนวนหลายตัน
ล่าสุดพ่อค้าชาวจีนได้มากว้านซื้อบรรทุกใส่ตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 20-30 ตัน ปีนี้จึงมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปกติ สร้างผลดีแก่เกษตรกรผู้ปลูก แต่จะต้องระมัดระวังในเรื่องผลกระทบทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ด้วย