ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ นั่งประธานลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายลิ้นจี่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ระหว่างสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และห้างโมเดิร์นเทรด ตั้งเป้ากระจายผลผลิต 3,000 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาททั่วประเทศ ป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่โรงแรมเชียงใหม่ ออร์คิด จ.เชียงใหม่ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคเหนือ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายลิ้นจี่ ระหว่างสถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร และห้างโมเดิร์นเทรด เพื่อกระจายผลผลิตสู่ท้องตลาดอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร
โดยบันทึกข้อตกลงทำขึ้นระหว่างสถาบันเกษตรกรผู้ผลิตลิ้นจี่ใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน กับสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดเดียวกัน ในฐานะผู้รับซื้อรวบรวมผลผลิต และสหกรณ์การเกษตรจาก 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง บุรีรัมย์ และปทุมธานี รวมทั้งห้างแม็คโคร ในฐานะผู้กระจายผลผลิตปลายทาง
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า พื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน เป็นแหล่งผลิตลิ้นจี่สำคัญของประเทศ มีพื้นที่ปลูกรวมกันประมาณ 120,000 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิตประมาณ 112,891 ไร่ คาดว่าปีนี้จะออกสู่ตลาดประมาณ 59,199 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28% เนื่องจากสภาพอากาศหนาวยาวนานทำให้ได้ผลผลิตดี
ซึ่งช่วงที่น่าจะมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดมากที่สุดจะเป็นช่วงวันที่ 20 พ.ค. ถึง 10 มิ.ย. ผลผลิตรวมกันประมาณ 40,637 ตัน จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ และมีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้มีปัญหาด้านราคาและอื่นๆ
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการผลผลิต ซึ่งตามข้อตกลงแล้วตลอดฤดูจะมีการซื้อขายลิ้นจี่ร่วมกันในระบบสหกรณ์ เพื่อกระจายผลผลิตจากต้นทางใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ไปยังตลาดและผู้บริโภคปลายทางทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท