อุตรดิตถ์ - ผู้ว่าฯ พิจิตรขอฝนเทียม ขณะที่ชลประทานประสานเขื่อนแควน้อยปล่อยน้ำเพิ่ม หวังดับไฟไหม้กลางบึงสีไฟ หลังระดมอาสาสมัครลุยดับไฟ 3 วันแต่ยังไร้ผล
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาไฟไหม้วัชพืชกลางบึงสีไฟตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มควันปกคลุมทั่วพื้นที่ว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมาได้ระดมหน่วยกู้ภัย และชาวบ้านหลายร้อยคนเข้าไปดับไฟที่ลุกไหม้ แต่งานไม่คืบหน้า เนื่องจากอาสาสมัครไม่มีความชำนาญในการดับไฟ อีกทั้งหาแหล่งน้ำที่จะใช้ดับไฟได้ยากมาก
ล่าสุด ได้สั่งให้นำเครื่องจักรกล และรถดับเพลิงบรรทุกน้ำวิ่งเข้าไปถึงกลางบึงสีไฟ แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง จนต้องทำหนังสือขอฝนเทียมไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หวังว่าจะให้ฝนตกมาดับไฟที่ลุกไหม้
นายสุรชัยกล่าวเว่า การทำงานครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไฟที่ลุกไหม้มีพื้นที่กว้างใหญ่ อีกทั้งไม่สามารถที่จะใช้เงินฉุกเฉินเพื่อทำงานนี้ได้ จึงยอมรับว่าไม่มีงบประมาณ ต้องใช้วิธีขอให้ อบต.และเทศบาล รวมถึง อบจ.ลงขันช่วยกัน รวมถึงต้องขอรับบริจาคจากคนพิจิตร ที่มีน้ำใจเอาน้ำดื่ม ข้าวกล่อง มาเลี้ยงหน่วยกู้ภัยและอาสาสมัคร
“ตลอด 3 วันที่ผ่านมาทุกคนทุ่มแรงกาย แรงใจเต็มที่ แต่ยังดับไฟที่ลุกลามไม่ได้ จึงทำหนังสือขอฝนเทียม ซึ่งก็หวังไว้แค่ 50% เท่านั้นว่าฝนเทียมจะตกลงมาตรงเป้าที่ต้องการ”
ด้านนายสมยศ แสงมณี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร ได้ประสานให้เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ช่วยเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อผันน้ำเข้ามายังคลอง C1 จ่ายต่อมายังคลอง C67 ที่มีคลองซอยเชื่อมเข้าบึงสีไฟ เพื่อจะให้น้ำท่วมพื้นที่ที่ไฟกำลังลุกไหม้ โดยได้รับการอนุมัติน้ำจากเขื่อนแควน้อย 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะมาถึงบึงสีไฟวันนี้(27 เม.ย.)