ราชบุรี - รองผู้ว่าฯ ราชบุรี พร้อมรอง ผกก.สภ.จอมบึง จนท.กรมควบคุมมลพิษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิลและกําจัดกากอุตสาหกรรม ในอำเภอจอมบึง คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ขณะที่เจ้าของโรงงานเผยเสียหายเบื้องต้น 10 ล้านบาท และพร้อมเยียวยาชาวบ้านที่อยู่โดยรอบโรงงาน เผยเมื่อปี 56 เคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล และกําจัดกากอุตสาหกรรมของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จํากัด เลขที่ 54/1 หมู่ที่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของนายสมพงษ์ และนางมาลี ลิ้มพัฒนสกุล เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันนี้ (24 เม.ย.) ว่า ต่อมา เวลา 10.00 น.นายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมคณะ พ.ต.ท.ชาติชาย ดอนชัย รอง ผกก.สภ.จอมบึง เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด นายจาฏุพัจน์ พรหมมินทร์ นายก อบต.รางบัว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเพลิงไหม้ที่ยังมีเพลิงคุกรุ่น และควันไฟมืดดําพวยพุ่งอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง และรถโฟมจากกองพลพัฒนาที่ 1 เข้าฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดบริเวณอาคาร และยังคงเกิดระเบิดเสียงดังออกมาเป็นระยะอยู่ตลอดเวลา
นายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ทางจังหวัดได้รับรายงานว่า มีเพลิงไหม้ที่โกดัง จึงได้สั่งการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) ราชบุรี และท้องถิ่นจังหวัด ประสานรถดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 เข้ามาช่วยเหลือดับเพิลง ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้เพลิงสงบ
ส่วนสาเหตุจากการดูสภาพแล้วเป็นเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นอาคารที่ใช้งานมานานพอสมควร โดยเหตุเกิดขึ้นตอนกลางคืนไม่มีการทำงาน แต่คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายเอกชัย ลิ้มพัฒนสกุล ผู้จัดการโรงงานเปิดเผยว่า อาคารนี้เป็นที่เก็บของจําพวกที่รับจากลูกค้ามากำจัด เช่น กระป๋องสเปรย์ ภาชนะพวกปี๊บ ถังน้ำมัน เศษเหล็ก ส่วนค่าเสียหายขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน แต่ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะประมาณกว่า 10 ล้านบาท แต่คงต้องรอดูการตรวจสอบที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อนว่ามูลค่าความเสียหายที่แท้จริงนั้นเท่าไร
“สำหรับชุมชนใกล้เคียงทางโรงงานมีมาตรการเยียวยาไว้แล้ว หลังจากเสร็จสิ้นการดับเพลิงไหม้แล้วจะได้ส่งทีมพนักงานออกไปสอบถามชาวบ้านว่าได้รับผลกระทบกันอย่างไรบ้าง ถ้ามีผลกระทบเกี่ยวกับสุขภาพก็จะมีการจัดหน่วยออกตรวจสุขภาพให้แก่ชาวบ้าน ทั้งนี้ คาดว่าเพลิงน่าจะสงบลงได้ภายในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว แต่จะต้องมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลาไม่ให้เกิดปะทุขึ้นมาอีก” นายเอกชัย กล่าว
ด้านนายจาฏุพัจน์ พรหมมินทร์ นายก อบต.รางบัว เปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้มีการกำจัดสารเคมีต่างๆ มากมาย เมื่อปีที่แล้วก็เคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็มาเกิดอีก และได้มีความพยายามที่จะควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งช่วงนี้จะมีอากาศร้อนอาจเป็นสาเหตุของเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร ตอนนี้ได้บอกประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รอบๆ แล้ว พร้อมกับมีการแจกผ้าปิดปากและจมูกป้องกันควันไฟ และสารเคมีให้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังดำเนินการอยู่ และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการเจ็บป่วยของชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ
สําหรับโรงงานดังกล่าวเคยเกิดเพลิงไหม้ใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2556 ครั้งนั้นทําให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบเรื่องของกลิ่นเหม็น และมลพิษทางอากาศ แต่ทางโรงงานได้ให้การเยียวยาดูแล แต่ก็ยังมีเหตุเกิดขึ้นอีก