พระนครศรีอยุธยา - คนร้ายฉวยโอกาสหยุดยาวช่วงสงกรานต์ และจังหวะที่ปลอดคน ย่องเงียบงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมฯ สหรัตนนคร อยุธยา กวาดเงินเรียบตู้ 1.7 ล้านบาทหนีลอยนวล พอเปิดทำการตามปกติ จนท.ธนาคารถึงกับผงะ! รีบแจ้ง ตร.แกะรอยล่าคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เชื่อคนร้ายมีความชำนาญ และรู้ความเคลื่อนไหวของธนาคารอย่างดี
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่า เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายงัดตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินสดไป 1.7 ล้านบาท จึงเดินทางไปตรวจสอบพบตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับธนาคารธนชาต และติดกับที่พักสายตรวจ ต.บางพระครู สภ.นครหลวง
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบของตู้เอทีเอ็ม พบที่ประตูด้านข้างของตู้เอทีเอ็ม มีร่องรอยการเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายของเจ้าหน้าที่ โดยคนร้ายได้ตัดหูช้างที่คล้องกุญแจออก นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยคนร้ายตัดไฟจากหม้อแปลงที่อยู่ด้านหลังของตู้ รวมถึงสายโทรศัพท์ที่เชื่องโยงสัญญาณเตือนภัยออกด้วย
จากการสอบถามร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับตู้เอทีเอ็ม ให้ข้อมูลว่า ช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุไม่มีใครอยู่ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทราบว่าเหตุเกิดประมาณ 01.54 น.ของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้นโรงงาน และร้านค้าต่างๆ ปิดกันหมด เนื่องจากทุกคนเดินทางกลับบ้าน และไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด เมื่อกลับมาก็ได้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมาทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุบริเวณตู้เอทีเอ็ม
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลจาก พ.ต.อ.ธัชกร รอดเจียม ผกก.สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้มาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายงัดเอาเงินไป
โดยทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารให้ข้อมูลว่า สัญญาณของตู้เอทีเอ็มถูกตัดไปเมื่อเวลาประมาณ 01.54 น.ของวันที่ 14 เม.ย.57 ซึ่งตอนแรกทางเจ้าหน้าที่คิดว่าเกิดความขัดข้องทางระบบไฟฟ้า ประกอบกับเป็นวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงยังไม่ได้มาตรวจสอบ
แต่พอทางธนาคารเปิดทำการตามปกติ จึงได้มาตรวจสอบ และพบว่าตู้เอทีเอ็ม ถูกคนร้ายตัดหูช้างประตู้ข้างตู้ แล้วนำกล่องใส่เงินสด จำนวน 3 กล่อง รวมเงินสดกว่า 1.7 ล้านบาทไป นอกจากนี้ ยังพบว่าคนร้ายได้ตัดสัญญาณที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาต ที่อยู่ติดกันด้วย
“ทางธนาคารให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ได้นำเงินสด จำนวน 3 ล้านบาท มาใส่ไว้ในตู้เพื่อบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์” พ.ต.อ.ธัชกร กล่าว
พ.ต.อ.ธัชกร กล่าวต่อว่า จากการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบคนร้ายทิ้งชะแลงสภาพใหม่ไว้ จำนวน 2 อัน และใบหินเจียรสายไฟสภาพใหม่อีก 1 อัน ที่คนร้ายใช้เชื่อมต่อกับหม้อแปลงไฟฟ้ามาทำการตัดหูช้าง ส่วนลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายขณะนี้อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบ
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 1 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันตรวจสอบหาข้อมูล และสืบสวนสอบสวนจากพยานต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุแล้ว แต่จุดบริเวณที่เกิดเหตุในวันที่เกิดนั้นทั้งร้านค้า และประชาชนต่างปิดกันหมด จึงยังไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียงขณะคนร้ายใช้เครื่องเจียรงัดตู้เอทีเอ็ม” พ.ต.อ.ธัชกร กล่าว และว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลจากกล้องวงจรปิดซึ่งยังไม่ชัดเจนมาก พบว่าในช่วงเกิดเหตุมีรถยนต์กระบะ 4 ประตู และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ที่เข้าออกใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีความชำนาญในเรื่องของช่างเพราะการตัดหูช้างตัดด้วยความชำนาญมาก และการตัดวงจรต่อไฟฟ้า รวมถึงคนร้ายน่าจะรู้ถึงความเคลื่อนไหว และระบบนิรภัยของทางธนาคาร รวมถึงเงินที่เข้าออกในตู้เอทีเอ็มเป็นอย่างดีด้วย
“ขอให้เวลาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสักระยะหนึ่งในการตรวจสอบ คาดว่าคงจะได้เบาะแสคนร้ายในเร็วๆ นี้” พ.ต.อ.ธัชกร กล่าว
