ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายเหิมหนัก ใช้เครื่องเชื่อมโลหะตัดแผ่นเหล็กหลังตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาต หน้าสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง กวาดเงินสดไปกว่า 1.7 ล้านบาท หนีลอยนวล ทิ้งเพียงถังแก๊ส และถุงมือไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูต่างหน้า ผู้การฯ สั่งไล่ล่าตัวด่วน
พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ว่า มีเจ้าหน้าที่ดูแลตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาตเข้าแจ้งความต่อทางตำรวจ สภ.กะทู้ ว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเวทีสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง ถูกคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะตัดเจาะเข้าไปขโมยเงินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจสอบ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว และขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบริเวณที่เกิดเหตุ พื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามจับกุมคนร้าย
ขณะที่ พ.ต.อ. จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า เหตุคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะตัดแผ่นเหล็กที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาตนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เหตุเกิดประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค.56 แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารธนชาตได้เดินทางมาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิงณัฐยาน์ สุพรรณพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งหลังรับแจ้งตน พร้อม พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ไพศาล สังข์ทอง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นิกร ชูทอง สวป. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะทู้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณตรงข้ามเวทีสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบประตูด้านหลังของตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาต มีร่องรอยการใช้เครื่องเชื่อมตัดโลหะตัดแผ่นเหล็กซึ่งมีความหนาออก ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า คนร้ายได้ยกเอากล่องเงินไปจำนวน 2 กล่อง ซึ่งเป็นกล่องที่บรรจุธนบัตรฉบับละ 100 บาท และธนบัตรฉบับละ 500 บาทหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลคาดว่าเงินที่หายไปน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท
ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบถังแก๊ส จำนวน 1 ถัง แก๊สกระป๋อง จำนวน 1 กระป๋อง และถุงมือผ้า จำนวน 1 คู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บหลักฐานไว้เพื่อนำไปพิสูจน์ลายนิ้วมือ ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว รวมทั้งมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพบว่ามีการแจ้งความที่ช้ามาก เหตุเกิดตอนตี 4 แต่เจ้าหน้าที่มาแจ้งความประมาณ 15.00 น. ซึ่งห่างกันประมาณ 11 ชั่วโมง เพราะในช่วงที่เกิดเหตุระบบมีการส่งสัญญาณเตือนไปที่บริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ โดยไม่มีการเชื่อมสัญญาณเตือนมาที่สถานีตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมีการหารือร่วมกันในการหามาตรการป้องกันการก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณปากทางเข้าโบ๊ทลากูน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต กวาดเงินสดกว่า 1.6 ล้านบาท และในคืนเดียวกัน คนร้ายได้พยายามก่อเหตุเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย สาขาถลาง เพื่อขโมยเงินแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมามีลักษณะการเจาะตู้เอทีเอ็มโดยใช้เครื่องเชื่อมโลหะเหมือนกัน ซึ่งในส่วนของคนร้ายที่ก่อเหตุเจาะตู้เอทีเอ็มที่โบ๊ทลากูน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับแล้ว เป็นแก๊งคนร้ายชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตอง
พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ว่า มีเจ้าหน้าที่ดูแลตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาตเข้าแจ้งความต่อทางตำรวจ สภ.กะทู้ ว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเวทีสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง ถูกคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะตัดเจาะเข้าไปขโมยเงินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจสอบ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว และขณะนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบริเวณที่เกิดเหตุ พื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตามจับกุมคนร้าย
ขณะที่ พ.ต.อ. จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า เหตุคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะตัดแผ่นเหล็กที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาตนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เหตุเกิดประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค.56 แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารธนชาตได้เดินทางมาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิงณัฐยาน์ สุพรรณพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ในเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งหลังรับแจ้งตน พร้อม พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ไพศาล สังข์ทอง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นิกร ชูทอง สวป. พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะทู้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณตรงข้ามเวทีสวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พบประตูด้านหลังของตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาต มีร่องรอยการใช้เครื่องเชื่อมตัดโลหะตัดแผ่นเหล็กซึ่งมีความหนาออก ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า คนร้ายได้ยกเอากล่องเงินไปจำนวน 2 กล่อง ซึ่งเป็นกล่องที่บรรจุธนบัตรฉบับละ 100 บาท และธนบัตรฉบับละ 500 บาทหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลคาดว่าเงินที่หายไปน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท
ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบถังแก๊ส จำนวน 1 ถัง แก๊สกระป๋อง จำนวน 1 กระป๋อง และถุงมือผ้า จำนวน 1 คู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บหลักฐานไว้เพื่อนำไปพิสูจน์ลายนิ้วมือ ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว รวมทั้งมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพบว่ามีการแจ้งความที่ช้ามาก เหตุเกิดตอนตี 4 แต่เจ้าหน้าที่มาแจ้งความประมาณ 15.00 น. ซึ่งห่างกันประมาณ 11 ชั่วโมง เพราะในช่วงที่เกิดเหตุระบบมีการส่งสัญญาณเตือนไปที่บริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ โดยไม่มีการเชื่อมสัญญาณเตือนมาที่สถานีตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมีการหารือร่วมกันในการหามาตรการป้องกันการก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องเชื่อมโลหะเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณปากทางเข้าโบ๊ทลากูน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต กวาดเงินสดกว่า 1.6 ล้านบาท และในคืนเดียวกัน คนร้ายได้พยายามก่อเหตุเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย สาขาถลาง เพื่อขโมยเงินแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมามีลักษณะการเจาะตู้เอทีเอ็มโดยใช้เครื่องเชื่อมโลหะเหมือนกัน ซึ่งในส่วนของคนร้ายที่ก่อเหตุเจาะตู้เอทีเอ็มที่โบ๊ทลากูน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับแล้ว เป็นแก๊งคนร้ายชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าตอง