เพชรบุรี - “ชัยวัฒน์” หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เตรียมเปิดอกแจงความจริงพรุ่งนี้ หลังถูกกล่าวหาพัวพัน “บิลลี่” หรือ “พอละจี รักจงเจริญ” นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึกบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปขณะเดินทางจากหมู่บ้านลงมายังตัวอำเภอแก่งกระจาน
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (20 เม.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์กรณี นายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึกบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปขณะเดินทางจากหมู่บ้านลงมายังตัวอำเภอแก่งกระจานว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวจากที่ลูกน้องโทร.มาบอก แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร
โดยนายชัยวัฒน์ ยอมรับว่า วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายบิลลี่ มาจริง ซึ่งระหว่างทาง นายบิลลี่ มีน้ำผึ้งป่ามาด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก ขณะที่นั่งรถมาด้วยกันตนได้ตักเตือนว่า นายบิลลี่ เป็นถึงสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ไม่ควรทำอย่างนี้ หลังจากนั้นระหว่างทางตนจึงได้ปล่อยให้นายบิลลี่ ลงพร้อมรถจักรยานยนต์ เพราะน้ำผึ้งที่นายบิลลี่ ขนมาจำนวนไม่มาก ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักศึกษาฝึกงานที่ไปด้วยก็สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ โดยตนจะให้สัมภาษณ์อย่างเปิดอกในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) พร้อมกับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวพบว่า คนในหมู่บ้านพูดถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายบิลลี่ เช่นกัน แต่บางคนบอกว่านายบิลลี่ มีภรรยา และอาศัยอยู่ที่บ้านป่าเด็ง ส่วนที่บ้านโป่งลึกบางกลอย มีเพียงญาติพี่น้องอยู่เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.57 เวลา 21.00 น. นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สมปอง ขำทวีร้อยเวร สภ.แก่งกระจาน ว่า ได้รับแจ้งจากลูกบ้านชื่อนายสิทธิพล รักจงเจริญ ว่า นายบิลลี่ หรือ นายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และเป็นสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง พี่ชายออกไปจากบ้านพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไนท์สีเหลือง ไม่ทราบทะเบียน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันที่ 17 เม.ย. และไม่สามารถติดต่อไดีอีกเลย จึงมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานลงบันทึกประจำไว้ ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนติดตามหาว่านายบิลลี่ หายตัวไปจริงหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ในวันเดียวกัน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้ออกหนังสือแถลงการณ์เผยแพร่วันที่ 20 เม.ย.57 ขอให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจ้งเรื่องการหายตัวไปของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนแกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีมีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 เม.ย.57 นายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปขณะเดินทางจากหมู่บ้านลงมายังตัวอำเภอแก่งกระจาน
ต่อมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมายอมรับว่าได้ควบคุมตัวนายบิลลี่ ไปเพื่อสอบสวน โดยอ้างความผิดซึ่งหน้าว่าค้นตัวนายบิลลี่ เจอรังผึ้งและน้ำผึ้ง 6 ขวด แต่ได้ปล่อยตัวนายบิลลี่ไปแล้ว โดยไม่มีหลักฐานพยานถึงข้อกล่าวหา และการปล่อยตัวแต่อย่างใด และขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่า นายบิลลี่ อยู่ที่ใด ไม่มีใครพบเห็นนายบิลลี่ และไม่ได้รับการติดต่อกลับผิดวิสัยนักกิจกรรม ขณะนี้ชาวบ้านมีความห่วงกังวลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมากจึงได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ไว้แล้วเมื่อวันที่ 19 เม.ย.57
ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.57 นายบิลลี่ หายตัวไปขณะเดินทางมาเพื่อเตรียมข้อมูล และเตรียมการนำชาวบ้านไปร่วมการพิจารณาคดีของศาลปกครองในคดีที่ชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอยฟ้องกรม อุทยานแห่งชาติฯ และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จากกรณีที่การเข้ารื้อทำลาย เผาบ้านเรือน และทรัพย์สินของชาวบ้านกะเหรี่ยงกว่า 20 ครอบครัว ที่บ้านบางกลอยบน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ซึ่งปรากฏผลการศึกษายืนยันต่อมาว่า ชาวบ้านกะเหรี่ยงกลุ่มดังกล่าวเป็นชนพื้นเมืองดังเดิมที่ตั้งรกรากอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณลำห้วยเหนือแม่น้ำบ้านบางกลอยบน มานับแต่ครั้งบรรพบุรุษเป็นเวลาร่วมกว่า 100 ปี
ความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับชาวบ้านชนเผ่าพื้นเมืองเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องคดีในชั้นศาล รวมทั้งการลอบสังหารนายทัศน์กมล โอบอ้อม นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอีกรายหนึ่งเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554 และการตั้งข้อกล่าวหาจ้างวานฆ่าต่อ นายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานฯ ซึ่งขณะนี้คดีกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลหาก แต่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ยังคงปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีการสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามระเบียบที่เคยปฏิบัติในกรณีที่ข้าราชการถูกฟ้องคดีอาญาร้ายแรง
เหตุการณ์หายตัวไปของนายบิลลี่ สร้างความวิตกกังวลว่าอาจน่าจะเกี่ยวข้องกับการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน และการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทนายความในคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ซึ่งนายบิลลี่ และชาวบ้านต้องร่วมเป็นพยานในคดีดังกล่าวด้วย การหายตัวไปของนายบิลลี่ จึงอาจส่งผลต่อคดี และการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมของกลุ่มชาวบ้านด้วย
การบังคับให้บุคคลสูญหาย หรือการอุ้มหาย เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ร้ายแรงที่สุด เป็นการละเมิดสิทธิต่อชีวิต ร่างกาย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่รัฐมีหน้าที่ตามกฎหมายภายใน และพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องให้การเคารพและคุ้มครองสิทธิดังกล่าว
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาชี้แจ้งเรื่องการหายตัวไปของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยทันที รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวนายบิลลี่ อย่างโปร่งใส เป็นอิสระ และนำตัวกลับมาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ รัฐจะต้องไม่ยินยอมต่อการกระทำอันเป็นการบังคับให้บุคคลสูญหาย และต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้พบ และช่วยเหลือเหยื่อและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าเป็นการบังคับให้สูญหายจริง บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการบังคับให้บุคคลสูญหายนั้นพึงถูกพักจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการในระหว่างเวลาที่มีการสอบสวนด้วย ตามที่ระบุในปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลให้พ้นจากการถูกใช้กำลังบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2535