พระสำนักปฏิบัติธรรมร้องผู้การ หลังเจอวางระเบิดไล่-แจ้ง ตร.แล้วกลับนิ่ง

เชียงราย - พระสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมเวียงแก่น เมืองเชียงราย ร้องผู้การตำรวจฯ หลังมือมืดลอบนำระเบิดวางหน้าทางเข้า แต่ตำรวจท้องที่ไม่ยอมรับแจ้งความ บอกเคยถูกกลุ่มอิทธิพลขู่หลายครั้งจนพระชุดแรกต้องเผ่นหนี พอแจ้งความกลับเจอลูกคู่กรณีเป็นตำรวจอยู่ด้วย

วันนี้ (18 เม.ย.) พระพงศกร เขมกาโม ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมสุญญาตาอาศรม เขตป่าชุมชนบ้านปางหัด ม.2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย พร้อมด้วยพระครูบา และพระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ที่สำนักฯ จำนวน 4 รูป ได้เดินทางไปร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย ที่กองบังคับการ ภ.เชียงราย หลังมีผู้นำลูกกระสุนปืนครก ไปวางเอาไว้ที่ถนนทางขึ้นสำนักปฏิบัติธรรม พร้อมป้ายข้อความเขียนข่มขู่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 57 ที่ผ่านมา

โดยระเบิดที่มีการนำมาวางข่มขู่กันนั้นถูกวางไว้บนถนนในช่วงเวลากลางคืน หากไม่ระมัดระวังและรถทับคงจะปะทุได้ เพราะทางทหารที่ไปตรวจสอบแจ้งว่าระเบิดยังปะทุได้หากถูกกระทบ

พระพงศกร และคณะสงฆ์ระบุว่า หลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเข้าไปตรวจสอบ ทางคณะสงฆ์ได้แจ้งความประสงค์ไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น ให้รับเป็นคดีความร้องทุกข์แล้ว ต่อมาเมื่อไปสอบถามขอคัดบันทึกทางเจ้าหน้าที่กลับไม่มีให้ และยังมีการบ่ายเบี่ยงกันไปมาอีก จึงเกรงว่าจะมีการใช้อิทธิพล

ทั้งนี้ เนื่องจากเคยมีเหตุคนบุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สิน และนำทรัพย์สินภายในสำนักปฏิบัติธรรมนี้ไปมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อราวเดือน พ.ค. 2556 จนคณะสงฆ์ชุดแรกที่เคยไปประจำอยู่ต้องย้ายไปจำพรรษาที่อื่นหมดแล้ว

ในคราวนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 13 คนเข้าไปทุบอาคาร ทำลายทรัพย์สิน รื้อค้นข้าวของ และยังขนเอาองค์พระประธาน พระพุทธรูปหลายองค์ออกไป ทำให้มีการแจ้งความต่ออดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งพร้อมพวกในข้อหาลักทรัพย์ โดยมีการใช้ยานพาหนะไปขน ปัจจุบันคดีความอยู่ในชั้นอัยการ และผู้ต้องหายังมีบุตรชายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนที่ประจำอยู่ สภ.เวียงแก่น อีกด้วย

“ที่ผ่านมายังเคยเกิดเหตุลักษณะคล้ายกันมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการติดป้ายข่มขู่ บางครั้งถึงขั้นขู่จะเอาชีวิต แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถึงขั้นเอาลูกระเบิดเอาวางไว้ หากรถไปทับคงจะมีการสูญเสีย ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางชาวบ้านได้ช่วยกันเข้าไปนอนเฝ้าสถานที่วันละ 2-3 คน”

ส่วนคนก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ที่อยากจะเข้าไปครอบครอบสำนักปฏิบัติธรรมเพราะเคยพยายามทำมาแล้วต่อพระสงฆ์ชุดแรก เนื่องจากมีผลประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเรื่องกิจการเกี่ยวกับงานบุญกุศล การบริจาคของญาติโยม การขุดดิน การเปิดผืนป่าชุมชน แต่เมื่อพระสงฆ์ชุดแรกไม่ยินยอมก็ถูกข่มขู่กดดันให้ต้องย้ายออกไป แล้วก็มาทำกับพระสงฆ์ชุดที่สองนี้อีก

พระพงศกรกล่าวว่า เขตป่าชุมชนบ้านปางหัดมีเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ขณะที่สำนักสงฆ์ฯ ที่ตั้งอยู่ในเขตป่า มีเพียงอาคารปฏิบัติธรรม อาคารหอฉัน กุฏิ 3 หลัง ศาลาล้างบาตรไม่กี่หลัง โดยตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านปางหัดซึ่งเป็นชุมชนของชาวไทยลื้อประมาณ 300 เมตร

ด้าน พล.ต.ต.วันชัย ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ชะลอ เงินแจ้ง เข้ารับเรื่อง ซึ่งทาง พ.ต.ท.ชะลอได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น ได้ความว่า ได้มีการสอบสวนคดีลูกระเบิดดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่ได้ลงเลขคดีความ พ.ต.ท.ชะลอจึงได้แจ้งให้รับเป็นคดีความ รวมทั้งแนะนำคณะสงฆ์ว่าสามารถดำเนินการในคดีที่เกี่ยวข้อง เช่น หมิ่นประมาท หรือข่มขู่กรณีมีการขึ้นป้ายคดีเกี่ยวกับการทำลายสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพราะนำระเบิดไปวางเอาไว้ คดีมุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น

พ.ต.ท.ชะลอยังได้ให้ความมั่นใจกับคณะสงฆ์ว่า ได้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่นเพื่อความสบายใจของผู้แจ้งแล้ว รวมทั้งให้รายงานต่อ บก.ภ.เชียงรายโดยตรงเพื่อติดตามความคืบหน้า ทำให้คณะสงฆ์ดังกล่าวพอใจและเดินทางกลับสำนักปฏิบัติธรรม