ร้อยเอ็ด - เจ้าของบ้านต้นเพลิงปฏิเสธไม่ได้นำดอกไม้ไฟมาขาย แต่เตรียมส่งคืน ด้านรอง ผบก.เผยรอเจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบสาเหตุ ส่วนบ้านเรือนเสียหาย 30 หลัง เจ้าบ้านต้นเพลิงยินดีชดใช้ทั้งหมด
ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายขนมตั้งเจริญ เลขที่ 128 หมู่ 11 บ้านหนองตากล้า ถนนสายร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด กลางดึกคืนที่ผ่านมา (9 เม.ย.) เปลวเพลิงลุกลามไหม้บ้านเรือนร้านค้าข้างเคียงเสียหายหลายสิบหลังนั้น
ล่าสุด เช้าวันนี้ (10 เม.ย.) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า โทรศัพท์เร่งฟื้นฟูคืนสภาพการใช้งาน ด้วยการเก็บกวาดพื้นที่ถนน ติดตั้งสายไฟฟ้า และเปลี่ยนสายโทรศัพท์ให้ใช้ได้ตามปกติ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.เหนือเมือง และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ยังคงฉีดน้ำควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบว่าไฟยังระอุ และมีควันไฟตลอดเวลา
พ.ต.อ.สมศักดิ์ จีบภิญโย รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมกับพนักงานสอบสวน ได้ใช้เชือกล้อมพื้นที่เกิดเหตุไว้เป็นพื้นที่ห้ามเข้า และตรวจสอบพบว่าในกองสิ่งของมีวัตถุไวไฟต้องห้าม จำพวกพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด และวัตถุอันตรายต้องห้ามอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก คาดว่าอาจจะเป็นต้นเหตุของการระเบิดและไฟลุกไหม้ บ้านเรือนกว่า 30 หลังถูกแรงอัดของระเบิดจนกระจกและฝ้าเพดานเสียหาย
พร้อมกันนั้นได้สอบถามข้อเท็จจริงจากนายรังสรรค์ นิกรพิทักษ์กุล เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ การเกิดการระเบิด และพบวัตถุไฟไวต้องห้ามภายในบ้าน โดยนายรังสรรค์กล่าวว่า ไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากการระเบิดขึ้นจากภายในบ้าน แต่เกิดจากไฟฟ้าและหม้อแปลงระเบิดจนเกิดประกายไฟมากกว่า แล้วลุกไหม้สิ่งของจนลุกลามเข้าไปในบ้านทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
นายรังสรรค์ยืนยันว่าทางร้านขายขนมเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ขายดอกไม้ไฟ หรือของผิดกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งดอกไม้ไฟที่พบมีบริษัทจากกรุงเทพฯ ส่งมาให้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งตนเห็นว่าอันตรายและขออนุญาตไม่ได้ เลยไม่ขาย และแจ้งไปยังผู้ส่งเพื่อขอส่งคืน แต่มาเกิดเหตุขึ้นก่อน ทั้งนี้พร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด
พ.ต.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าอะไรคือสาเหตุของการระเบิดรุนแรง ซึ่งได้กำชับให้พนักงานสอบสวนกันพื้นที่ไว้ก่อน และห้ามไม่ให้มีการรื้อค้น เคลื่อนย้ายทุกอย่างโดยเด็ดขาด เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 มาตรวจพิสูจน์ให้เป็นที่ชัดเจน ส่วนการจะดำเนินคดีเจ้าของบ้านต้นเพลิงฐานความผิดใดบ้าง คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ก่อนเช่นกัน และกรณีที่พบว่ามีวัตถุไวไฟต้องห้ามอยู่ในที่เกิดเหตุ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
