ศรีสะเกษ - ตำรวจ สภ.ศรีสะเกษรุดตรวจสอบต้นพะยูงยักษ์อายุกว่า 100 ปีถูกตัดโค่นบริเวณวัดบ้านกลาง อ.เมืองศรีสะเกษ หลังพลเมืองดีแจ้ง เผยตัดขายนายทุนต้นเดียวกว่า 1.8 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลุ่มคนเข้าลักลอบตัดไม้พะยูงในบริเวณวัดบ้านกลาง ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงรีบออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบเห็นกลุ่มคนกำลังช่วยกันตัดโค่นต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี อยู่บริเวณข้างวัดบ้านกลาง พร้อมได้ตัดเป็นท่อนๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษได้เข้ามาตรวจสอบการตัดไม้พะยูงดังกล่าว
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ได้มีนางสุภาวดี วรรณา ออกมาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของไม้พะยูงต้นดังกล่าว และเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินเลขที่ 66643 ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ดินติดกับวัดบ้านกลาง
นางสุภาวดีกล่าวว่า ที่ดินของตนกับที่ดินวัดบ้านกลางเป็นพื้นที่พิพาทเขตแดนกันมานานแล้ว ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้ตนชนะว่าวัดบ้านกลางได้สร้างกำแพงรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ของตนเมื่อวันที่ 28 ก.พ.57 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ต้นพะยูงที่ตนกำลังตัดอยู่นี้ถือว่าอยู่ในพื้นที่ของตนและตนมีอำนาจในต้นพะยูงดังกล่าว จึงได้ขายให้นายทุนที่อยู่กรุงเทพฯ ในราคาประมาณ 1,850,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินที่นางสุภาวดี วรรณา นำมาแสดงนั้นถือว่าถูกต้อง และนางสุภาวดีมีสิทธิในที่ดินและต้นไม้พะยูงดังกล่าวจริง
แต่การตัดและการขนย้ายไม้พะยูงนั้นยังไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทำให้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสั่งห้ามไม่ให้ขนย้ายไม้พะยูงออกนอกพื้นที่ ก่อนจะได้ไปขอหนังสืออนุญาต และรับรองว่าไม้พะยูงถูกต้องตามกฎหมาย จึงจะสามารถขนย้ายออกนอกพื้นที่ได้