บุรีรัมย์ - น้ำมูลแห้งขอดจนเห็นสันดอนทราย ส่งผลกระทบเกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ต้องเลิกเลี้ยงปลาสิ้นเชิง สูญรายได้นับล้าน ขณะผู้เลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์เลิกเลี้ยงกว่า 2,000 ราย จากที่ลงทะเบียนไว้กว่า 13,000 ราย
วันนี้ (24 มี.ค) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดบุรีรัมย์ภัยแล้งยังวิกฤตและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำในลำน้ำมูลในเขตพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้แห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายโผล่ ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังกว่า 40 ราย ในเขตพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.สตึก ต้องหยุดและชะลอการเลี้ยง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เนื่องจากขณะนี้น้ำมีสภาพตื้นเขินเป็นกรดแก๊ส หากเลี้ยงก็เสี่ยงกับปลาน็อกตายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและน้ำที่เน่าเสีย ทำให้เสียโอกาสขาดรายได้นับล้านบาท
นอกจากนั้นยังทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลาเชิงพาณิชย์ในเขตพื้นที่จังหวัดที่มาขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานประมงจังหวัดกว่า 13,000 ราย ต้องประสบปัญหาน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติเหือดแห้ง และน้ำที่กักเก็บไว้หมุนเวียนสำหรับเลี้ยงปลาก็แห้งขอด ต้องชะลอและเลิกเลี้ยงไปอีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้เลี้ยงทั้งหมด หรือกว่า 2,000 ราย
ขณะที่นายจิรพงศ์ นุตะศะริน ประมงจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในขณะนี้ในทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำไม่เพียงพอได้ชะลอการเลี้ยงไว้ก่อนเช่นกันเกรงว่าปลาที่เกษตรกรเลี้ยงไว้จะประสบปัญหาภัยแล้ง และสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้จนเกิดอาการน็อกตายได้ ดังนั้นช่วงนี้เกษตรกรควรสูบน้ำออกให้แห้ง แล้วโรยด้วยปูนขาว ตากบ่อให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อไว้รองรับการเลี้ยงปลาในฤดูกาลหน้าด้วย
ทั้งนี้ ประมงจังหวัดยังได้แจ้งให้ประมงอำเภอทุกอำเภอได้เข้าไปสำรวจและแนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังและเชิงพาณิชย์ในการดูแลสุขภาพปลาให้รอดพ้นจากฤดูแล้งนี้ หรือหากเกษตรกรพบว่าปลาที่เลี้ยงไว้ตายผิดปกติ ให้แจ้งประมงจังหวัดหรืออำเภอ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบและควบคุมดูแลเพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่อาจจะเกิดขึ้น