“แม่น้ำบางปะกง” แห้งสันดอนขนาดยักษ์โผล่กลางปากอ่าว

ฉะเชิงเทรา -แม่น้ำบางปะกงแห้ง พบสันดอนขนาดใหญ่โผล่กลางปากอ่าว กลายเป็นเกาะกว้างใหญ่เนื้อที่นับร้อยไร่ ทำให้เส้นทางการเดินเรือคับแคบลงจนแทบใช้การไม่ได้

วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบเกาะแห่งใหม่ ที่เกิดขึ้นกลางลำแม่น้ำบางปะกง ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้ได้เกิดภาวะตื้นเขินจากระดับน้ำที่ลดต่ำลงจนถึงขั้นแห้งขอด และทำให้มีสันดอนดินเลนผสมทรายขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ จนสามารถสังเกตมองเห็นได้ไกล หรือกลายเป็นเกาะแห่งใหม่ขึ้นมา

สำหรับบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่กว้างขวางมาก ทอดเป็นแนวยาวไกลออกไปตามลำน้ำขนาด 2-3 กิโลเมตร จนสามารถทำให้สัตว์เดินเท้า อย่างเช่น สุนัขนั้นสามารถลงไปวิ่งเล่นไล่หยอกล้อกันได้บนผืนดินที่เกิดขึ้นใหม่แห่งนี้ โดยเชื่อว่ามีเนื้อที่บนเนินดินหลายร้อยไร่

ด้านนายปรีชา สุวรรณ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.1 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว นับจากเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ได้พัดพาเอาตะกอนดินลงมาจากทางตอนบน และมาตกผลึกกลายเป็นเนินดิน ที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงในช่วงต้นปี 2555 ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ขณะนั้นยังมีเนื้อที่ไม่กว้างขวางมากเท่ากับในปีนี้ เนื่องจากเมื่อครั้งปี 2555 ผืนดินที่ผุดโผล่ขึ้นมาจากน้ำยังมีสภาพที่เป็นสันดอนที่โผล่งอกขึ้นมาในลักษณะของเนินดินที่เป็นลูกๆ สูงใหญ่สลับกัน

ในปีนี้พบว่าเนินดินที่ตกตะกอน หรือสันดอนที่มีสภาพเป็นลูกฟูก กลับถูกผนึกติดกันจนกลายเป็นผืนแผ่นดินขนาดกว้างใหญ่อย่างที่เห็น แม้เนื้อดินที่ทับถมกันลงมาจนกลายเป็นเกาะแห่งใหม่นี้ จะยังไม่ยึดติด หรือทับถมกันจนแข็งตัว หรือควบแน่นจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนกับเนื้อดินที่ด้านบนฝั่งก็ตาม แต่เชื่อว่าอาจจะมีแนวโน้มที่จะทับถมกันสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

นายปรีชา กล่าวต่อไปว่า สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดการทับถมของดินตะกอนในบริเวณนี้มากนั้น เนื่องมาจากจุดที่พบผืนดินที่เกิดขึ้นใหม่นี้เคยเป็นกระชังเลี้ยงปลากะพงของชาวบ้าน ที่ได้พากันเลิกเลี้ยงเนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพน้ำ และบางรายได้ย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นยังคงมีสภาพเป็นซุ้มเสากระชัง และเสาไม้ไผ่ที่ยังคงถูกปักไว้เป็นหลักเรียงรายกันอยู่กลางลำน้ำเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดการตกตะกอน และทับถมกันขึ้นอย่างรวดเร็วมากในบริเวณนี้