xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ตั้ง 2 ปมยิงถล่มศูนย์ พท. “แรมบ้า” โคราช เจ้าตัวปักใจเชื่อฝีมือ “กปปส.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมบ้าอีสาน”  ชี้รอยรูกระสุนปืนด้านหน้าศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงถล่ม  วันนี้ ( 21 มี.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจตั้ง 2 ประเด็นขัดแย้งส่วนตัวและการเมือง คนร้ายใช้ “ อาก้า” ยิงถล่มศูนย์ประสานงานเพื่อไทยของ “แรมบ้าอีสาน” ที่ อ.ครบุรีโคราช ผู้การฯ ส่งชุดสืบสวนร่วมตร.ท้องที่ไล่ล่าคนร้าย ด้าน “สุภรณ์” ปักใจเชื่อเป็นฝีมือ กปปส. ส่งคนต่างถิ่นมาก่อเหตุ ระบุไม่มีความขัดแย้งในพื้นที่ คาดหวังข่มขู่เท่านั้น และมั่นใจตร.จะจับคนร้ายมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามชนิด AK 47 หรือ ปืนอาก้า ยิงถล่มศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เลขที่ 9 หมู่ที่ 3 ริมถนนครบุรี-โชคชัย ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ของนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส. นครราชสีมา และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมบ้าอีสาน” อดีต ส.ส.นครราชสีมา ,อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ฝ่ายการเมือง และ ประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อ.พ.ป.ช.) ทำให้กระจกด้านหน้า และฝ้าเพดาน รวมถึงรูปของ นายสุภรณ์ ที่ถ่ายคู่กับมารดา ถูกกระสุนได้รับความเสียหาย โดยพบรูกระสุนปืนทะลุกระจกบริเวณด้านหน้าศูนย์ประสานงาน รวมประมาณ 19 จุด เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันนี้ ( 21 มี.ค.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกันนี้ ( 21 มี.ค.) ที่ สภ.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ประยงค์ กอศรี หัวหน้างานสอบสวน สภ.ครบุรี นานกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมนำหลักฐานเป็นหัวกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุมาให้ นายสุภรณ์ ดูด้วย

นายสุภรณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม กปปส. และไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายทหารหรือตำรวจลงมือ เพราะสองวันที่แล้วตนได้ไปพบกับแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อชี้แจงว่าที่ตั้งกลุ่ม อพปช.ขึ้นมาไม่ได้เป็นกองกำลังติดอาวุธ หรือเป็นการฝึกกำลังเพื่อใช้อาวุธ แต่ต้องการรวมกลุ่มเพื่อต่อต้านเผด็จการและปกป้องประชาธิปไตย ไม่มีการติดอาวุธสงคราม แต่จะมีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มเผด็จการ กปปส.เท่านั้นที่มีปัญหากับตน

ส่วนความขัดแย้งส่วนตัวในพื้นที่ไม่มีแต่อย่างใดเพราะตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่นานแล้ว และทางการเมืองในพื้นที่ตนก็ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้ลงพื้นที่ มีเพียงสำนักงานตั้งอยู่เพื่อมาคอยดูแลประชาชนในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งเราทำงานกันตามปกติ มีพี่ชาย คือ นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ ที่เป็นอดีต ส.ส. ก็ทำงานกันตามปกติ ส่วนตัวไม่ได้ข้องแวะหรือเกี่ยวข้องวุ่นวายกับการเมืองในพื้นที่

นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ และที่ผ่านมาได้รับสัญญาณบอกตลอดว่าจะมีการประกบแกนนำ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นขบวนการที่มาจากม็อบ กปปส. และที่สำคัญตนเพิ่งมีเรื่องมีราวฟ้องร้องคดีกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทีนิวส์ ซึ่งไปที่กองปราบปรามมาเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) จึงเชื่อว่าน่าจะมาจากจุดนั้น

สำหรับการก่อเหตุดังกล่าวเชื่อว่าเพียงต้องการข่มขู่เพื่อต้องการให้ตนหยุดการเคลื่อนไหวระดมมวลชนที่จะออกไปต่อสู้กับเผด็จการหรือปกป้องประชาธิปไตย และส่วนหนึ่งอาจมาจากการตั้งกลุ่ม อพปช. และอีกส่วนอาจมาจากที่ตนเป็นแกนนำกลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.ครบุรีมีกลุ่ม กปปส.ที่เคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งมีการปราศรัยเป็นระยะๆ เชื่อว่ากลุ่มนี้จะเชื่อมโยงกับกลุ่มใหญ่ที่จะเข้ามาข่มขู่ตน

“วันนี้บ้านนี้เมืองนี้ไหนบอกว่าไม่มีอาวุธ ไหนต้องการความสงบ สู้แบบสันติ ตามหลักของกฎหมาย แต่วันนี้ทำไมถึงนำอาวุธสงครามมาข่มขู่ผมและเพื่อน เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าม็อบที่ชุมนุมอยู่นั้นไม่ได้เป็นม็อบที่สงบ สันติ อหิงสาเหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยอยู่ทุกวัน แต่เป็นม็อบที่ประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธสงคราม มีการข่มขู่และหมายปองชีวิต ทำร้ายข่มขู่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเราต้องระวังตัว อยากให้ฝ่ายบ้านเมืองเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาว่าม็อบกลุ่มนี้เป็นม็อบสันติตามที่นายสุเทพกล่าวหรือไม่ ซึ่งคดีนี้เชื่อว่าฝีมือของตำรวจโคราชน่าจะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ และผมเชื่อมั่นในฝีมือของผู้บังคับการตำรวจโคราช”นายสุภรณ์ กล่าว

นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแต่ตนไม่ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยติดตามดูแลความปลอดภัยให้ เพราะเชื่อมั่นในความดี ถ้าเราเป็นคนดี คิดดี ทำดี ยึดมั่นในหลักคุณธรรม เดินตามหลักกฎหมาย ตามหลักยุติธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครอง เราไม่จำเป็นต้องขอกำลังมาดูแล เพราะคนเราหากวันหนึ่งจะต้องตายจริงคงหนีไม่พ้น

“แต่ตอนนี้เป็นห่วงแต่แม่ที่แก่แล้ว อายุกว่า 80 ปี พอรู้ข่าวนี้ท่านก็ตกใจและเป็นห่วง ฉะนั้นตอนนี้จึงห่วงแต่แม่ ฝากเจ้าหน้าที่ดูแล ส่วนผมเองไม่ต้องเป็นห่วงไปไหนมาไหนคนเดียวไม่มีปัญหา” นายสุภรณ์ กล่าว

ด้าน นายมนัส เลิศกระโทก และนายเทียน ลากระโทก ผู้ดูแลศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย และอยู่ในช่วงเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ไม่ได้ออกมาเพราะเกรงจะเกิดอันตราย หลังจากเสียงปืนสงบลงสักพักจึงออกมาตรวจสอบ พบบริเวณกระจกด้านหน้าและฝ้าเพดานได้รับความเสียหาย จึงขี่รถจักรยานยนต์ไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ครบุรี

ขณะที่ พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.)นครราชสีมา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 3 ได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว และจะสรุปชนิดของอาวุธ รวมถึงกระสุนที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ และประเด็นอื่นๆ ที่เป็นผลต่อคดี โดยดูจากภาพกล้องวงจรปิดของร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้ที่เกิดเหตุที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ แบบตอนเดียว ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน โดยคนก่อเหตุนั่งมาด้านหน้ากับคนขับ และหลังก่อเหตุรถของคนร้ายวิ่งมุ่งหน้าไปทาง อ.โชคชัย ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนคดีนี้มาก

ส่วนประเด็นการสอบสวนตั้งไว้ 2 ประเด็นหลัก คือ ความขัดแย้งส่วนตัว และประเด็นทางการเมือง โดยให้น้ำหนักที่ประเด็นหลังมากกว่า ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชุดสืบสวนของ สภ.ครบุรี ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด


(กลาง) พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา รุดตรวจที่เกิดเหตุ



ภาพถ่าย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ คู่ มารดา ถูกกระสุนปืนด้วย

นายสุภรณ์  เข้าให้ปากคำตำรวจ สภ.ครบุรี
โชว์กระสุนปืน ที่คนร้ายยิงก่อเหตุ

กล้องวงจรปิด บันทึกภาพรถยนต์คนร้ายขณะก่อเหตุ


กำลังโหลดความคิดเห็น