กูรูท่องเที่ยวแนะต้อง “แก้ไข” แทนต้านนักท่องเที่ยวจีนทะลัก

เชียงราย - รองผู้ว่าฯ ททท.ขึ้นเวทีเสวนาท่องเที่ยวเชียงราย เมืองหน้าด่านชายแดนเหนือ แนะปรับมุมมองรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลัก ชี้ต้อง “แก้ไข” แทนการต่อต้านพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน

นายอภิชา ตระสินธุ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฯ และนายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย ได้เปิดเวทีสัมมนาผู้นำการท่องเที่ยวไทย ในโอกาสการสถาปนาสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท

โดยเน้นไปที่เรื่องการรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาตามถนนอาร์สามเอ ไทย-สปป.ลาว-จีน ข้ามสะพานแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 อย่างต่อเนื่อง

นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิคใต้ ททท. กล่าวว่า เชียงรายมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ปีละกว่า 2 ล้านคน จากสถิติปีที่ผ่านมา (2556) พบเป็นชาวฝรั่งเศส 58,000 คน, อเมริกัน 30,000 คน และที่น่าสนใจคือมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 25,000 คน รองลงไปจึงเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ตามลำดับ

ซึ่งกรณีชาวฝรั่งเศสที่เดินทางเข้าเชียงรายมากเพราะฝรั่งเศสมีความผูกพันอยู่กับ สปป.ลาว จึงเดินทางผ่านเข้าไปใน สปป.ลาว โดยเฉพาะทางแขวงหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก

ส่วนชาวอเมริกันก็นิยมศึกษาด้านประวัติศาสตร์เป็นพิเศษ เมื่อรวมๆ กับนักท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งคนไทยก็จะเห็นได้ว่าเชียงรายเป็นดินแดนแห่งการผสมผสานของนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ

แต่ที่สร้างความหวาดหวั่นให้คนที่เกี่ยวข้องก็คือกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ทะลักเข้ามา และจากข่าวสารพฤติกรรมของชาวจีนทำให้น่าเป็นห่วง รวมทั้งหลายกรณีตนไม่เห็นด้วยที่จะบ่งบอกภาพลักษณ์ที่กระทบไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน

“เราต้องหาวิธีการแก้ไขมากกว่าจะบ่งชี้ภาพลักษณ์เช่นนั้นออกมา โดยส่วนหนึ่งอาจจะเหลียวมองไปถึงกรณีนักท่องเที่ยวไทยที่เคยไปญี่ปุ่น ซึ่งมักถูกระบุว่าเป็นกลุ่มที่เสียงดัง ไม่มีระเบียบวินัย ฯลฯ ซึ่งกรณีนี้เราก็ควรแก้ไข และปรับมุมมองในด้านการบริการให้ดีได้อย่างไรมากกว่า”

ขณะเดียวกัน ทางรัฐบาลจีนก็พยายามแก้ไขเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และจะสังเกตเห็นว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้กลุ่มท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทยกว่า 80-90% มากับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีปัญหาเลย

นายสรรเสริญบอกว่า เชียงรายมีศักยภาพ ทั้งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และชายแดน เป็นเมืองผสมผสาน จึงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องรองรับนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ และปัจจุบันมีเครื่องบินจากเชียงราย-คุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เป็นประจำด้วย

ดังนั้น อันดับแรกต้องกำหนดความเป็นเชียงรายที่เหมาะสมก่อน เช่น มีจุดแข็งตรงที่เป็นประตูเชื่อมไปสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือจีเอ็มเอส ฯลฯ เมื่อได้ความเป็นเชียงรายแล้ว จึงผลักดันให้ส่วนท้องถิ่นสนับสนุนร่วมกับภาครัฐและเอกชน โดยมีสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อน

นายสรรเสริญกล่าวอีกว่า เราอาจดูตัวอย่างเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งมีแต่ตึกรามบ้านช่องและไม่มีแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็มีคนเดินทางไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะห่างออกไปประมาณ 80 กิโลเมตรเป็นเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน

ด้านนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็น 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทย ความสำคัญเทียบเท่ากับการส่งออกข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ฯลฯ เลยทีเดียว ในปี 2556 ที่ผ่านมาแม้จะมีวิกฤตหลายอย่างแต่ก็มีอัตราเติบโต 19% จำนวนนักท่องเที่ยวรวม 26.6 ล้านคน ทำเงินสะพัดกว่า 1.67 ล้านล้านบาท

สำหรับปี 2557 นี้เราตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 28-29 ล้านคน ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ โดยไม่เกิดวิกฤตมากไปกว่านี้ เราก็จะยังคงประคับประคอง และไม่ปรับเปลี่ยนเป้าเพิ่มเติมแน่นอน