นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงการประเมินภาพรวมของเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ว่า จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวสะพัดกว่า 4,300 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติประมาณ 1.48 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวไทย 1.3ล้านคน เติบโต 5% และเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 100,000 คน เติบโต 1.2%
ทั้งนี้ กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตน้อยนั้นเนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันเท่าใดนัก แต่กลับกันจำนวนนักท่องเที่ยวไทยยังเติบโตได้ดีเพราะปรับสภาพเหตุการณ์ต่างๆ ได้ และเป็นเทศกาลที่ต้องท่องเที่ยวอยู่แล้ว
นางวิไลวรรณ กล่าวว่า ททท.ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการจัดงานทั้ง 13 พื้นที่หลัก ระหว่างวันที่ 6-20 เมษายนนี้ ดังนั้น การประเมินในครั้งนี้จึงเป็นเพียงในเบื้องต้นเฉพาะ 13 พื้นที่ก่อน เพราะรายได้หลักๆ ช่วงสงกรานต์ก็มาจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ สุโขทัย ชลบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครพนม ขอนแก่น หนองคาย หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสมุทรปราการ แต่คาดว่าพื้นที่ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากที่สุดในระดับ 200,000 คนขึ้นไป จะมีอยู่ 4 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และชลบุรี
ปีนี้ ททท.จะแบ่งเส้นทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ไทยให้มีความชัดเจน ได้แก่ แบบสงกรานต์ในเชิงวัฒนธรรมที่มีอยู่ประมาณ 8 พื้นที่ เพื่อตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนาน อาทิ สงกรานต์มอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีวิธีการละเล่นตามคติความเชื่อแบบดั้งเดิมและหาชมได้ยากในปัจจุบัน และแบบการเล่นน้ำเพื่อความชุ่มฉ่ำ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงและทำให้ชาวต่างชาติต้องการเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากในแต่ละปีนั้น จะเพิ่มการให้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมในเชิงให้สร้างการรับรู้ให้ทราบถึงวิธีการละเล่นที่ถูกต้องเพื่อให้มีความปลอดภัยกับตัวนักท่องเที่ยวเอง พร้อมกับนำเสนอแง่มุมของกิจกรรมในเชิงประเพณีอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การทำบุญตักบาตร การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการสรงน้ำพระพุทธรูป เป็นต้น
ทั้งนี้ กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตน้อยนั้นเนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันเท่าใดนัก แต่กลับกันจำนวนนักท่องเที่ยวไทยยังเติบโตได้ดีเพราะปรับสภาพเหตุการณ์ต่างๆ ได้ และเป็นเทศกาลที่ต้องท่องเที่ยวอยู่แล้ว
นางวิไลวรรณ กล่าวว่า ททท.ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการจัดงานทั้ง 13 พื้นที่หลัก ระหว่างวันที่ 6-20 เมษายนนี้ ดังนั้น การประเมินในครั้งนี้จึงเป็นเพียงในเบื้องต้นเฉพาะ 13 พื้นที่ก่อน เพราะรายได้หลักๆ ช่วงสงกรานต์ก็มาจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ สุโขทัย ชลบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครพนม ขอนแก่น หนองคาย หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสมุทรปราการ แต่คาดว่าพื้นที่ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากที่สุดในระดับ 200,000 คนขึ้นไป จะมีอยู่ 4 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และชลบุรี
ปีนี้ ททท.จะแบ่งเส้นทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ไทยให้มีความชัดเจน ได้แก่ แบบสงกรานต์ในเชิงวัฒนธรรมที่มีอยู่ประมาณ 8 พื้นที่ เพื่อตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนาน อาทิ สงกรานต์มอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีวิธีการละเล่นตามคติความเชื่อแบบดั้งเดิมและหาชมได้ยากในปัจจุบัน และแบบการเล่นน้ำเพื่อความชุ่มฉ่ำ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงและทำให้ชาวต่างชาติต้องการเดินทางมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากในแต่ละปีนั้น จะเพิ่มการให้ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมในเชิงให้สร้างการรับรู้ให้ทราบถึงวิธีการละเล่นที่ถูกต้องเพื่อให้มีความปลอดภัยกับตัวนักท่องเที่ยวเอง พร้อมกับนำเสนอแง่มุมของกิจกรรมในเชิงประเพณีอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การทำบุญตักบาตร การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการสรงน้ำพระพุทธรูป เป็นต้น