ฉะเชิงเทรา - รักษาการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าพื้นที่แปดริ้ว เยี่ยมเด็กหญิงแฝด 2 หัวในร่างเดียว ที่โรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา หลังผู้เป็นบิดาร้องเรียน อ้างทางโรงพยาบาลวินิจฉัยผิดพลาด ขณะ ผอ.ยันเป็นปัญหาเกี่ยวกับยีนพันธุกรรม และระบบสืบพันธุ์ของมารดา พบทั่วโลกเพียง 9 ราย ด้านความหวังรอดชีวิตเหลือริบหรี่ หลังพบอาการแทรกซ้อนต่อเนื่อง
วันนี้ (16 มี.ค.) นางปวีณา หงสกุล รักษาการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางเข้าเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงแรกคลอดวัยเพียง 1 วันเศษ ที่มีร่างกายลักษณะแฝดติดกัน หรือมีเฉพาะส่วนของศีรษะ 2 ศีรษะ แต่มีร่างกายเพียงร่างเดียว
โดยเด็กหญิงดังกล่าวเป็นบุตรสาวของ นายเผชิญ ภัสสร อายุ 39 ปี อาชีพพนักงานขับรถในเขตย่านนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และนางเวียงไฟ คิดทะวงศ์ อายุ 30 ปี ภรรยาชาวลาว ที่ได้โทรศัพท์เข้าไปร้องเรียนต่อทางมูลนิธิฯ ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวานนี้
โดยนายเผชิญ กล่าวว่า หลังจากที่ภรรยาตั้งครรภ์ ได้นำภรรยาเข้าไปฝากครรภ์ยังที่ รพ.แปลงยาว แต่หลังจากทำการฝากครรภ์ได้เพียง 3 เดือนเศษ ทางแพทย์ผู้รับฝากครรภ์ของทาง รพ.แปลงยาว ระบุว่า เด็กในครรภ์มีความผิดปกติ หลังจากอัลตราซาวนด์แล้วพบว่า เด็กในครรภ์นั้นมีเพียงร่างเดียวแต่มีส่วนหัว 2 หัวแต่ยังไม่แน่ใจ จึงได้ทำการส่งต่อให้มาทำการอัลตราซาวนด์โดยละเอียดอีกครั้งที่ รพ.พุทธโสธร (รพ.เมืองฉะเชิงเทรา) ซึ่งเป็น รพ.ตามระบบการส่งต่อตามกระบวนการรักษาทางการแพทย์
แต่เมื่อมาถึง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ทางแพทย์ซึ่งเป็นนายแพทย์ใหญ่ทางด้านสูตินรีแพทย์ ของทางโรงพยาบาลเมือง กลับบอกว่า เด็กนั้นเป็นเพียงเด็กแฝดทั่วไป ที่มี 2 ร่าง มีสายรก 2 สาย และเด็กยังขวางศีรษะแยกจากกัน ก่อนที่จะส่งให้ภรรยาตนกลับไปทำการฝากครรภ์ต่อยัง รพ.แปลงยาว ตามเดิม
โดยที่ทางหมอใหญ่ของ รพ.เมืองยังได้ระบุอีกว่า “จากการอัลตราซาวนด์แล้วพบกระดูกสันหลัง 2 โครง คุณไม่เชื่อผมเหรอ ผมเป็นหมอใหญ่นะ” โดยไม่ได้ทำการส่งต่อให้ไปทำการรักษา หรือดูแลตามกระบวนการการรักษาทางการแพทย์ยังที่ รพ.ที่มีขนาดใหญ่กว่า หรือที่ รพ.ชลบุรี ตามระบบการส่งต่อทางการแพทย์ที่มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่พร้อมเพียงกว่า โดยเฉพาะเครื่องอัลตราซาวนด์นั้นเป็นแบบระบบ 3 มิติ
โดยแพทย์ใหญ่นายดังกล่าวยังได้บอกแก่ตนอีกว่า หากต้องการจะนำภรรยาไปรักษายังที่ รพ.ชลบุรีเอง ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง โดยทางโรงพยาบาลจะไม่ทำเรื่องในการส่งต่อไปให้ ตนจึงได้นำภรรยากลับมาฝากครรภ์ยัง รพ.แปลงยาว ตามเดิม และไปตรงตามการนัดตรวจโดยตลอด
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มี.ค.57 ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. ทางแพทย์ รพ.เมือง ได้ทำการผ่าตัดทำคลอดให้แก่ภรรยาของตน จึงปรากฏว่า บุตรสาวของตนนั้นมีเพียงร่างเดียวแต่มีส่วนหัว 2 หัว จนตนเองถึงกับช็อกมึนศีรษะจนทำอะไรไม่ถูก เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อีกทั้งบุตรสาวที่เพิ่งคลอดออกมายังมีอาการหายใจไม่ปกติ จนแพทย์ต้องนำไปเข้าไว้ในตู้อบพร้อมใส่สายยางช่วยหายใจเพื่อทำการรักษา ดูอาการ โดยที่คณะแพทย์ของทาง รพ.พุทธโสธร ยังได้แจ้งแก่ตนอีกด้วยว่า บุตรสาวมีโอกาสที่จะรอดชีวิตน้อยมาก จึงทำให้ตนข้องใจ เพราะได้เห็นว่าทางแพทย์นั้นไม่สามารถตรวจ และวินิจฉัยครรภ์ของภรรยาตนได้อย่างถูกต้อง จนทำให้เด็กที่เกิดขึ้นมามีสภาพที่น่าเวทนาอย่างนี้ จึงได้ร้องขอให้ทางมูลนิธิฯ ปวีณา ช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าวด้วย
หลังนางปวีณา ได้เข้าเยี่ยมอาการของเด็กที่ตึกทำคลอด 14 ชั้น บนห้องไอซียูเด็กชั้น 8 แล้ว ได้เข้าร่วมกันปรึกษาหารือเกี่ยวกับอาการของเด็กร่วมกับทีมแพทย์ผู้ทำการรักษา และทำคลอด โดยมี นพ.ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผอ.รพ.พุทธโสธร พร้อมด้วย นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้เข้ามาติดตามดูอาการของเด็กอยู่ด้วย เข้าร่วมหารือ และรับฟังรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว
โดย นพ.ประสิทธิ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ทำการรักษา กล่าวว่า ตามหลักการรักษาของทางการแพทย์แล้วไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัด หรือตัดแยกร่างเด็กให้เด็กฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรอดชีวิตได้เพียงฝ่ายเดียว และจากหลักฐานทางวิชาการของเด็กแฝดที่มี 2 ศีรษะร่างกายเดียวกัน และใช้อวัยวะภายในชุดเดียวกันนั้นการฝ่าตัดแยกร่างนั้นแทบไม่มีโอกาสที่จะรอดได้เลย และจากสถิติที่เคยพบทั่วโลก จำนวน 9 ราย ที่ผ่าตัดแยกร่างแล้วไม่มีรายใดรอดชีวิตเลย
ขณะนี้จึงได้ให้การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ เช่น การควบคุมความดันเลือดให้ปกติ ให้เด็กได้รับออกซิเจนได้ครบ ให้เลือด ให้สารน้ำ ให้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อประคับประคองจนกว่า ภูมิต้านทาน ความเปลี่ยนแปลงของปอด และหัวใจจะลดลง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะสิ้นสุดการรักษาเมื่อไหร่
ส่วนภาวะวิกฤตของเด็กในขณะนี้ คือ มีถุงลมในปอดรั่ว ทำให้มีลมเกิดขึ้นในปอด หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงตามร่างกาย และสมองได้น้อยลง จึงให้การรักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจ ใส่สายระบายลมที่อยู่ในช่องปอด ซึ่งความผิดปกติของเด็กเองนี้ถือว่าอยู่ในขั้นรุนแรง โดยแพทย์จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์แน่นอน ไม่ได้เกี่ยวกับระบบการบริการทางการแพทย์ใดๆ โดยพบว่าเป็นความผิดปกติของยีน รวมทั้งรังไข่ และมดลูกที่ผิดปกติไป จึงทำให้เด็กที่เกิดมามีความปิดปกติ
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ได้เดินทางเข้ามาดูตามการร้องเรียนไปยังมูลนิธิฯ ของผู้เป็นบิดาของเด็ก แล้วพบอาการของเด็กตามที่มีเรื่องร้องเรียนไป จึงได้ประสานมายังทางผู้ว่าราชการจังหวัด และ นพ.ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผอ.โรงพยาบาล
และพบว่าปัญหาเกี่ยวกับเครื่องอัลตราซาวนด์นี้เคยได้รับเรื่องร้องเรียนมามากหลายเรื่องแล้ว และอาจจะต้องประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำการตรวจสอบในทุกๆ โรงพยาบาล เพื่อจะได้มีมาตรการว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ปัญหาอย่างนี้เกิดขึ้นมาอีก ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็ยังพบว่าเกิดเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเครื่องอัลตราซาวนด์ที่เด็กนั้นมีสีขาวออกมาใน รพ.แห่งอื่น
สำหรับกรณีนี้ทางโรงพยาบาลต้นทางเขาก็บอกมาแล้วว่า เด็กมี 2 หัวในร่างเดียวนะ แต่พอมาถึงที่นี่แล้วกลับไม่แน่ชัด ขณะที่ฝ่ายของผู้เป็นบิดาก็ได้มีการร้องขอที่จะให้ส่งต่อไปยังที่อื่น แต่ทาง รพ.โดยแพทย์ผู้รักษาก็ไม่ได้ดำเนินการตามการร้องขอ หรือทำตาม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นอุทาหรณ์ที่ต้องสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นไปได้ โดยคุณหมออย่าได้เพิ่งไปมั่นใจอะไรมากนัก จนเกินไป
จากผลสรุปที่ได้รับจากทางแพทย์ก็เห็นได้ชัดว่า เด็กนั้นคงมีโอกาสที่จะรอดยาก เพราะว่าลำตัวมีเพียงร่างเดียว หัวใจเดียว จะผ่าตัดแยกกันก็ไม่ได้ จึงต้องแสดงความเสียใจต่อพ่อ และแม่ ของเด็กอย่างยิ่ง โดยทาง พม.ก็ได้ทำการมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง และฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ครอบครัวนี้ โดยส่วนของตนนั้นจะได้ประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุข จะคุยกับทาง รมว.สาธารณสุข ให้เข้ามาตรวจสอบ และประชุมหารือกันในมาตรการเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป โดยไม่อยากที่จะให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาอีก
โดยอาจจะมีมาตรการที่จะเข้ามาดูว่า การอัลตราซาวนด์แบบนี้มันจะใช้ได้ดีแค่ไหน หรือจะมีมาตรการที่มีอัลตราซาวนด์แบบอื่นเข้ามาใช้ใหม่ ให้สามารถดูเด็กในครรภ์ได้อย่างมีคุณภาพมากกว่านี้หรือไม่ ส่วนเรื่องการช่วยเหลืออย่างอื่นนั้นน่าจะเป็นของทางส่วนสาธารณสุข ที่มีเงินส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งก็จะได้มอบหมายให้ พม. และมูลนิธิฯ ประสานกลับมาทาง ผอ.รพ.แห่งนี้ และรองผู้ว่าฯ สรุปเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย