ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กรมชลประทาน เตือนน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ลดลงต่ำกว่าครึ่งแล้ว วอนช่วยกันประหยัดก่อนขาดแคลน
วันนี้ (16 มี.ค.) ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ว่า ล่าสุดมีปริมาณน้ำรวม 11,325 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 46 ของความจุอ่างรวมกัน ปริมาณน้ำใช้การได้ 4,629 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 25
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก 5,949 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 44 น้ำใช้การได้ 2,149 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ 4,657 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 49 น้ำใช้การได้ 1,807 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก 330 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 35 น้ำใช้การได้ 287 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี 389 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 41 น้ำใช้การได้ 386 ล้าน ลบ.ม.
ด้านการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2556/2557 เฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ใช้น้ำไปแล้ว 5,404 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 102 ของแผน จะเห็นได้ว่าการใช้น้ำเริ่มเกินแผนที่ตั้งไว้ ขณะที่ยังเหลือระยะเวลาฤดูแล้งอีกกว่าเดือนครึ่ง
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ที่สำคัญๆ เช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ต่ำกว่าครึ่งอ่างแล้ว แต่แนวโน้มการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนเฉพาะการอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก จึงขอให้ช่วยกันประหยัดน้ำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และยังจะเป็นการลดการนำน้ำที่สำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝน เดือนพฤษภาคม มาใช้ให้น้อยที่สุดอีกด้วย