บุรีรัมย์ - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวบุรีรัมย์ ยังร่วมบริจาค และฝากเงินสมทบเข้ากองทุนช่วยชาวนากับ ธ.ก.ส. ต่อเนื่อง รวม 24 สาขา ทั้งจังหวัด เกือบ 8 ล้าน แต่ล่าสุด ยังค้างจ่ายเงินจำนำข้าวเกษตรกรอื้อกว่า 47,600 ราย วงเงินกว่า 3,800 ล้าน
วันนี้ (15 มี.ค.) นายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการบริจาคและฝากเงินสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา ที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/57 จนถึงขณะนี้ ได้มีบรรดาข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนจากหลากหลายสาขาอาชีพ ที่ จ.บุรีรัมย์ ทยอยเข้าร่วมบริจาค และฝากเงินสมทบเข้ากองทุน ที่ ธ.ก.ส. ทั้ง 24 สาขา อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 7,600,000 บาท และคาดว่าจะยังคงมีผู้ร่วมบริจาคสมทบเข้ากองทุนช่วยชาวนาอย่างต่อเนื่องจนปิดโครงการฯ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ ได้รับจัดสรรงบประมาณจากทางรัฐบาลเพื่อมาจ่ายให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว จำนวน 18 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1,768 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินอยู่อีกกว่า 47,600 ราย คิดเป็นวงเงินที่ค้างจ่ายกว่า 3,800 ล้านบาท
นายกัณห์ กล่าวต่อว่า นอกจากโครงการรับบริจาคสมทบกองทุนช่วยชาวนาแล้ว ทาง ธ.ก.ส.ยังมีมาตรการยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้แก่ชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าวออกไปอีก 6 เดือน พร้อมทั้งมีโครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ชาวนานำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพด้วย ซึ่งขณะนี้ได้มีชาวนาที่เดือดร้อนสนใจยื่นกู้เงินกับทาง ธ.ก.ส. แล้วกว่า 4 ล้านบาท
ส่วนผู้ที่ต้องการบริจาค หรือฝากสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา หรือฝากสมทบเข้ากองทุนฯ ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 บริจาคเงินเข้ากองทุน บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 0200-3-3477-582 ธ.ก.ส.สาขาบางเขน รูปแบบที่ 2 สมทบเข้ากองทุน ชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และ รูปแบบที่ 3 สมทบเข้ากองทุนชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราผลตอบแทนร้อยละ 0.63 ต่อปี ได้ทุกวันเวลาทำการไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2557 นี้
