xs
xsm
sm
md
lg

สั่งทุก รพ.เตรียมพร้อมรับมือมลพิษในอากาศ ชม.พุ่งเกินค่ามาตรฐาน - แล้งวิกฤตหนักลำห้วยแห้งสนิท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงใหม่ฝุ่นพุ่งเกินมาตรฐานแล้ว แพทย์เตือนประชาชนเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เชียงใหม่พุ่งทะลุเกณฑ์มาตรฐานแล้ว 122 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร หมอกควันหนาทึบคลุมทั่วเมือง สสจ.เชียงใหม่สั่งทุก รพ.เตรียมพร้อมช่วยชาวบ้าน แจกจ่ายหน้ากากอนามัย เตือน ปชช.เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วน "เชียงราย" เริ่มเจอปัญหาหมอกควันครั้งแรกในรอบปีหลัง PM10 พุ่งทะลุเกณฑ์มาตรฐานทั้งเขตตัวเมือง-ชายแดนแม่สายวันแรก หลายหน่วยงานในพะเยา-น่าน-ตากเร่งลดปัญหาหมอกควัน ระดมกำลังพ่นน้ำ-ทำแนวกันไฟจุดเสี่ยง หลังค่าฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านภัยแล้งหลายพื้นที่วิกฤตหนัก น้ำในคลองแห้งสนิทโดยเฉพาะที่จันท์

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (11 มี.ค.) เป็นต้นมา สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบ ซึ่งจากตัวเมืองไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้เหมือนช่วงปกติ ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ โดยกรมควบคุมมลพิษพบว่าวันนี้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรแล้ว จนอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยวัดค่าได้ 122 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามลำดับ

ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เตือนว่า ช่วงนี้ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคหืดหอบ เป็นต้น ระวังรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวและจะมีอาการกำเริบ เนื่องจากจะตอบสนองกับปัญหาคุณภาพอากาศได้เร็วกว่าคนปกติ ทั้งนี้ แนะนำให้เตรียมยารักษาโรคประจำตัวให้พร้อมเสมอ งดการออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคารหรือออกเท่าที่จำเป็น และควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
หมอกควันเชียงรายเกินเกณฑ์มาตรฐานทั้งจังหวัดแล้ว
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลนั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งในความรับผิดชอบจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้เพื่อแจกจ่ายประชาชนสวมใส่ป้องกันตัวเองแล้ว โดยจะเน้นเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงก่อนเป็นหลัก ซึ่งแนะนำประชาชนทั่วไปว่าหากไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยได้สามารถใช้ผ้าชุบน้ำแล้วปิดจมูกแทนก็ได้ ขณะที่การดูแลผู้ป่วยก็สั่งการให้เตรียมพร้อมไว้แล้วเช่นเดียวกัน

สำหรับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้มีจังหวัดที่ประสบปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 สูงเกินค่ามาตรฐาน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ 122 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, พะเยา 184 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, น่าน 157 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, เชียงราย 131 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และลำปาง 185 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

**ควันเชียงรายเกินเกณฑ์มาตรฐานทั้งจังหวัด

ที่ จ.เชียงราย กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนในอากาศ ว่าสถานีตรวจวัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ได้วัดค่าอากาศของฝุ่นละอองได้ในปริมาณ 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ชายแดนไทย-พม่า ก็วัดค่าได้เท่ากันที่ 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งระดับดังกล่าวถือว่าเกินมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพที่กำหนดเอาไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทั้งสองจุดเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้

ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปพบว่าเริ่มขมุกขมัวทั่วบริเวณ โดยเฉพาะเมื่อมองในระยะไกล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาไฟป่า หรือการเผาไร่ในพื้นที่มากนัก จึงคาดว่าฝุ่นละอองดังกล่าวจะพัดปลิวมาจากจังหวัดทางตอนล่าง และชายแดน
จังหวัดพะเยาเร่งระดมพลพ่นน้ำขึ้นฟ้า ทำแนวกันไฟลดวิกฤตหมอกควัน
**เมืองกว๊านเร่งระดมพลพ่นน้ำขึ้นฟ้า

ที่ จ.พะเยา นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำและรถดับเพลิง จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอดอกคำใต้กว่า 10 คันเพื่อฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา สร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่และลดปัญหาหมอกควัน

ขณะเดียวกันจังหวัดพะเยา ยังได้เร่งรณรงค์และระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งชาวบ้านและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองพะเยา ด้วยการตั้งจุดเฝ้าระวังในพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยพะเยา มากกว่า 6 จุด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่าในช่วงนี้อย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการลดหมอกควัน ก่อนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาที่ จ.พะเยา เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา ในวันที่ 13 มี.ค.57 ที่จะถึงนี้

นอกจากนั้น ทางจังหวัด ยังได้ร่วมกันเข้าทำแนวกันไฟในพื้นที่จุดเสี่ยงที่มักจะเกิดไฟป่าเป็นประจำ เพื่อลดปัญหาความรุนแรงของภาวะหมอกควันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (11 มี.ค.) วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ได้สูงถึง 184 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว

**น่านเร่งพ่นน้ำสกัดหมอกควัน

ส่วนที่ จ.น่าน นายนำชาติ จันทร์ดี ปลัดเทศบาลตำบลกลางเวียง อ.เมือง จ.น่าน จัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมนำรถบรรทุกน้ำ 4 คันออกฉีดพ่นละอองน้ำทั่วพื้นที่ เพื่อสกัดหมอกควันในบริเวณเขตเทศบาลและในเขตชุมชน และเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ หลังพบว่าพื้นที่อำเภอเวียงสาเกิดฝุ่นละอองและหมอกควันมากที่สุดของจังหวัด และพบจุดความร้อนถึง 182 จุด พร้อมกันนั้นทางเทศบาลฯ ยังได้เร่งออกประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือไปยังผู้นำชุมชนให้รณรงค์และเข้มงวดหยุดเผาป่า แต่ก็ยังพบว่ามีประชาชนบางพื้นที่ได้ลักลอบเผาเพื่อเตรียมพื้นที่การเกษตร
อปท.น่านเร่งพ่นน้ำสกัดหมอกควัน หลังฝุ่นคลุ้ง-Hot Spot โผล่
ขณะที่สถานีตรวจวัดอากาศสำนักงานเทศบาลเมืองน่านพบว่า ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ทั่วทั้งจังหวัดน่าน อยู่ที่ 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนแล้ว

**ลำน้ำวังแห้งขอดมานานกว่า1เดือนแล้ว

ด้านสถานการณ์ภัยแล้งหลายพื้นที่กำลังวิกฤติอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ลำปาง ได้ส่งผลกระทบกับชาวบ้านเกษตรกรหลายพื้นที่ โดยเฉพาะชาวบ้าน 6 หมู่บ้านของ ต.นายาง อ.สบปราบ จ.ลำปาง จำนวน 600 ครัวเรือน หลังจากหัวสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้าที่บ้านนาปราบ หมู่ที่ 3 ต.นายาง ไม่สามารถสูบน้ำจากลำน้ำวัง ที่แห้งขอดยาวนานกว่า 1 เดือนและไม่มีน้ำไหลส่งไปยังลำเหมืองสาธารณะของหมู่บ้าน ได้ซึ่งส่งผลกระทบไปยังชาวบ้านนายางไม่มีน้ำใช้ อุปโภคบริโภคดื่มกินแล้ว

ขณะที่จากปัญหาภัยแล้งก็กระทบกับแหล่งหญ้าตามธรรมชาติในพื้นที่ต่างๆ หญ้าสำหรับไว้ให้สัตว์ เช่น วัว ควาย ก็เหี่ยวเฉาแห้งตาย ส่งผลกระทบต่อวัว ควายในหมู่บ้านอีกหลายร้อยตัว ไม่มีหญ้ากิน ส่วนชาวบ้านก็ช่วยกันแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น นำกระสอบทรายไปกั้นน้ำวัง หนุนให้สูงขึ้น และในเบื้องต้นทาง อ.สบปราบ จะได้รายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ทราบเรื่องแล้ว

**พิษณุโลกแล้งรุนแรงน้ำตกแก่งโสภาน้ำแห้งขอด

ด้านสถานการณ์ภัยแล้งใน จ.พิษณุโลก เริ่มรุนแรงขยายวงกว้างมากขึ้น ล่าสุดน้ำในลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นต้นน้ำของลุ่มน้ำวังทอง เริ่มแห้งขอดเป็นระยะทางยาว บางช่วงไม่มีน้ำสามารถเดินผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะที่น้ำตกแก่งโสภา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำแห้งขอดแทบไม่มีน้ำ หรือไม่เห็นเป็นภาพน้ำตกเหมือนที่ผ่านมา สภาพที่เห็นกลับกลาย เป็นก้อนหินมหึมาขนาดใหญ่โตจำนวนมาก ทับถมกันยาวเหยียดกว่า 200 เมตร บางช่วงก็มีน้ำตกที่ไหลจากต้นน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประชาชนในพื้นที่ จ.จันทบุรี กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งอย่างหนัก
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่น้ำตกแก่งโสภา กล่าวว่า ในแต่ละปีเมื่อถึงเดือนเมษายนปริมาณน้ำในน้ำตกแก่งโสภา ก็จะแห้งขอด เห็นแต่โขดหิน แต่ในปีนี้ฤดูแล้งมาเร็วกว่าปีที่ผ่านมา เพียงแค่เดือนมีนาคม ระดับน้ำในน้ำตกแก่งโสภา แห้งขอดแทบจะไม่มีน้ำเหลือแต่อย่างใด

**แล้งจันท์วิกฤตหนัก ต้นน้ำแห้งขอด

ขณะที่ จ.จันทบุรี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ตำบลจันทเขลม อำเภอ เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำพบคลองจันตาแป๊ะ และคลองอีกหลายสายที่เป็นสายน้ำหล่อเลี้ยงไปใน 8 หมู่บ้าน พบว่าน้ำในคลองได้แห้งขอดเห็นสันดอนทรายและกรวดหินส่งผลให้ชาวบ้าน หมู่ที่ 1-8 ตำบลจันทเขลม ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคมานาน ประกอบกับในช่วงนี้ผลผลิตไม่ว่าจะเป็น เงาะ มังคุด ทุเรียน ที่ชาวบ้านปลูกไว้เริ่มที่จะติดดอกออกผล และต้องการน้ำเป็นอย่างมากในการเข้ามาบำรุงต้น หากไม่ได้น้ำเข้ามาช่วยเหลือก็จะทำให้ผลผลิตได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

สำหรับภัยแล้งที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุฝนทิ้งช่วงนาน ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี และทำให้น้ำในคลองที่ชาวบ้านใช้สูบเข้าสวนแห้งขอดเร็ว แม้ในช่วงนี้พื้นที่จังหวัดจันทบุรี จะมีฝนตกลงมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรชาวบ้านได้มากนัก ในเบื้องต้นทางเทศบาลตำบลจันทเขลมได้มีการประสานขอรถแบคโฮจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เตรียมที่จะเข้ามาขุด และทำแนวกั้นเก็บกักน้ำช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วนแล้ว

ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน คือใช้น้ำที่มีการขุดสระเก็บกักไว้ในสวนอย่างประหยัดแต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะพ้นแล้งในปีนี้หรือไหมอย่างไร เพราะปริมาณน้ำเริ่มลดน้อยลงหากไม่พ้นแล้งก็จะมีการประสานให้ทางเทศบาลตำบลจันทเขลมนำรถบรรทุกน้ำนำน้ำเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป

ล่าสุดสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดจันทบุรีอยู่ที่ 9 อำเภอ 52 ตำบล 400 กว่าหมู่บ้าน เหลืออีก 1 อำเภอ คือ อำเภอแหลมสิงห์ ที่ยังไม่ประกาศ และมีแนวโน้มอาจจะมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งทั้งจังหวัดในเร็ววันนี้ เนื่องจากชาวบ้านใน อำเภอแหลมสิงห์เริ่มที่จะมีการร้องขอรถบรรทุกน้ำจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น