ลำปาง - หมอกควันเหนือฟ้าลำปางยังคงวิกฤตต่อเนื่อง พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) พุ่งสูงทะลุ 243 ไมโครกรัม/ลบ.ม.แล้ว ขณะที่ปัญหาไฟป่า-ไฟไหม้พื้นที่สาธารณะยังโผล่ ล่าสุด เกิดไฟไหม้ซังข้าวโพดกองมหึมา ส่งควันคลุ้งขึ้นท้องฟ้า
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ สุดสัปดาห์นี้ (7 มี.ค.) พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 15-243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้ามากนัก
ขณะที่จังหวัดลำปาง ยังคงมีค่าปริมาณของฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานสูงที่สุดในภาคเหนืออีกครั้ง โดยจุดวัดคุณภาพอากาศ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสบป้าด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (PM10) สูงถึง 243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่อีก 2 สถานีก็มีค่าสูงเช่นกัน และอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลต่อสุขภาพ
กรมควบคุมมลพิษแนะนำให้เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวนหน้ากาก หรือใช้ผ้าปิดจมูก ปิดประตูหน้าต่างเพื่อกันฝุ่นควันเข้าบ้าน ติดตามข่าวสาร และปฏิบัติตามข้อแนะนําจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์
ขณะที่ปัญหาไฟไหม้ป่า-พื้นที่สาธารณะในพื้นที่จังหวัดลำปาง ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายชัช วางท่า นายก อบต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 6 ที่ผ่านมา ได้เกิดเพลิงลุกไหม้กองซังข้าวโพดขนาดมหึมา กินพื้นที่ 4-5 ไร่ ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านดง ม.2 ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง อบต.วังทรายคำ และลุกลามเป็นบริเวณกว้างอย่างรวดเร็วไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เปลวไฟ และกลุ่มควันโพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมาก
ตนจึงประสานรถดับเพลิงของเทศบาล และ อบต.ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางมาช่วยดับไฟ แต่การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกองซังข้าวโพดแห้งเป็นเชื้อไฟอย่างดี และไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำไฟกลับลุกไหม้เพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ต้องปรับปลายท่อที่ฉีดน้ำเป็นแบบฝอย และฉีดเลี้ยงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงตอนเช้า สถานการณ์จึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ก็ยังคงให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคอยฉีดน้ำควบคุมไว้ เนื่องจากกองซังข้าวโพดมีจำนวนมาก หากด้านล่างยังมีเชื้อไฟก็จะปะทุขึ้นมาอีก พร้อมให้เจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิงของ อบต.วังทรายคำ อยู่ประจำ ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อเฝ้าระวัง และพร้อมที่จะฉีดน้ำดับไฟที่อาจจะปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากความร้อนในกองเพลิงยังดับไม่สนิท
นายชัช เปิดเผยอีกว่า กองซังข้าวโพดที่เกิดเพลิงลุกไหม้ครั้งนี้ เป็นซังข้าวโพดที่ออกมาจากเครื่องโม่ที่ทับกองใหญ่มหึมากินพื้นที่ประมาณ 4-5ไร่ ก่อนที่ซังข้าวโพดจะแห้ง และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี พอเกิดไฟไหม้ก็จะไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ