ลำปาง - กรมควบคุมมลพิษเตือน เร่งคุมเข้มการเผาป่าเมืองรถม้า ก่อนหมอกควันพุ่งสูงเกินมาตรฐาน หลังพบเขตตัวเมืองระดับ PM10 แตะ 109 ไมโครกรัม/ลบ.ม.อีกแล้ว
ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษได้คาดการณ์สถานการณ์หมอกควันไฟและฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 ภาคเหนือว่า ถึงแม้ช่วงนี้ค่าเฉลี่ย PM10 จะยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานระหว่าง 40-109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เนื่องจากสภาพอากาศมีการลอยตัวได้ดีในหลายพื้นที่ จึงทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสถูกพัดพา และชะล้างความเข้มข้นลดลงไปได้บ้างในหลายพื้นที่ แต่หากแต่ละจังหวัดยังคงมีการเผา ไม่ว่าจะเป็นการเผาตามพื้นที่การเกษตร ตามชุมชน หรือการเกิดไฟไหม้ป่า ก็จะทำให้ค่าเฉลี่ยในแต่ละจังหวัดเพิ่มสูงขึ้นจนเกินค่ามาตรฐานขึ้นได้
โดยเฉพาะใน จ.ลำปาง ที่ค่าเฉลี่ย PM10 ลดลงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมาประมาณ 2-3 วัน ที่ผ่านมาก็อาจจะกลับมาเกินค่ามาตรฐานได้อีกไม่น้อยกว่า 7% เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีการเผาเกิดขึ้นแทบทุกวัน วันละหลายแห่ง
ส่วนค่าเฉลี่ยหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองลำปาง วัดค่าแบบเรียลไทม์ของวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาได้สูงสุด 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังเป็นค่าสูงสุดในภาคเหนือ แต่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ขณะที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะวัดได้ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ หากยังมีการเผาไหม้ในพื้นที่ก็จะทำให้ค่าเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นตามเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้ 7% โดยจะทำให้ค่าเกินมาตรฐานทันที ดังนั้นทางกรมควบคุมมลพิษจึงได้กำชับให้ จ.ลำปางคุมเข้มการเผาในพื้นที่เพื่อป้องกันค่าเฉลี่ยหมอกควันไฟ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก กลับมาเกินค่ามาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชนที่หายใจในที่โล่งแจ้ง
ด้านนายเสกสรร แดงใจ ประธานชมรมเฮาฮักป่าม่อนพระยาแช่ อ.เมือง ซึ่งเป็นจิตอาสาดับไฟใน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ช่วงกลางคืนได้เกิดไฟป่าในลำปางขึ้นมาก เพราะมีประชาชนที่บุกรุกเข้าไปหาของป่า และจุดไฟเผาป่า เพื่อให้เกิดความโล่งเตียน เดินได้สะดวก จนส่งผลกระทบต่อผืนป่า-สิ่งแวดล้อมอย่างมาก
นายเสกสรรกล่าวว่า อยากให้ทางจังหวัดใช้มาตรการทางกฎหมายจับกุมผู้เผาป่าให้ได้ และคุมเข้มการเผาในพื้นที่ให้ดี โดยเฉพาะหากเกิดไฟไหม้ป่า หรือในพื้นที่ใดขอให้รีบส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดับทันที เนื่องจากทีมงานจิตอาสาชาวลำปางที่ช่วยกันเฝ้าระวังไม่สามารถที่จะเข้าไปดำเนินการได้หมดในทุกพื้นที่
ขณะที่ศูนย์ควบคุมไฟป่าจังหวัดลำปางที่ตั้งขึ้นเพื่อรับแจ้งเหตุการเกิดไฟป่าหรือการเผาโดยเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันจะมีการรายงานจุดเกิดเหตุไฟป่าหลายแห่ง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุทางศูนย์ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีนายอำเภอเป็นผู้ดูแล และประสานงานเพิ่มเติมหากในพื้นที่ไม่สามารถติดต่อประสานงานได้ แต่เนื่องจากบางครั้งจุดเกิดเหตุมีหลายพื้นที่พร้อมกัน และอยู่บนดอยสูง รวมทั้งเกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่สามารถเข้าดับไฟในบางจุดได้ จนทำให้ไฟไหม้ลุกลามเป็นบริเวณกว้างเพิ่มขึ้น