ลำปาง - เครือข่ายผู้ป่วยแม่เมาะพร้อมใจกันนำดอกไม้ธูปเทียนสักการะอนุสาวรีย์หลวงพ่อเกษม เขมโก อดีตเกจิชื่อดัง ก่อนขึ้นรถบัสเข้ากรุงร่วมฟังแถลงแย้งคำอุทธรณ์คดีฟ้อง กฟผ.ที่รอมานาน 12 ปี จนสมาชิกป่วย-ตายไปแล้ว 12 ราย
นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ จ.ลำปาง พร้อมด้วยกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะกว่า 200 คนได้รวมตัวกันเมื่อเวลาประมาณ 21.40 น. คืนที่ผ่านมา (10 มี.ค.) นำดอกไม้ ธูปเทียนมาสักการะขอพรที่อนุสาวรีย์หลวงพ่อเกษม เขมโก อดีตเกจิชื่อดังของชาวจังหวัดลำปาง เพื่อขอพร ก่อนขึ้นรถบัส 3 คันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมรับฟังการแถลงแย้งคำอุทธรณ์ของตุลาการเจ้าของคดีต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีคดีฟ้อง กฟผ.ในวันนี้ (11 มี.ค.) ที่ศาลปกครองสูงสุด
นางมะลิวรรณกล่าวว่า การไปศาลปกครองสูงสุดในครั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ป่วยฯ มีความหวังเต็มเปี่ยม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจากศาล หลังเข้าสักการะหลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งถือเป็นเกจิที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวลำปาง เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และขอพรให้ศาลปกครองสูงสุด ซึ่งจะมีคำพิพากษาในอีกหนึ่งเดือนถัดจากนี้พิพากษายืนตามศาลปกครองเชียงใหม่ ที่ให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยให้กลุ่มผู้ป่วยที่รอคอยการเยียวยามานานกว่า 12 ปี ซึ่งระหว่างที่รอผู้ป่วยก็เสียชีวิตไปแล้ว 12 ราย จากจำนวนที่ยื่นฟ้องทั้งหมด 131 ราย
ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ป่วยแม่เมาะ ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กฟผ.ต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นค่าเสียหายและเยียวยาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.เมื่อปี 2546 และเมื่อปี 2552 ศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาให้ กฟผ.ชดใช้เงินแก่ราษฎรนับร้อยรายที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซซัลเฟอร์-ไดออกไซด์ (SO2)
โดยกำหนดค่าเสียหายเป็นค่าเสื่อมสุขภาพอนามัย และจิตใจแก่ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่จริง ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำ ตามปริมาณและจำนวนครั้งที่ กฟผ. ปล่อย SO2 โดยส่วนใหญ่จะได้รายละ 246,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย และมีคำพิพากษาให้ กฟผ.อพยพราษฎรและให้ปลูกป่าแทนสนามกอล์ฟ หลังจากนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดตามขั้นตอนของกฎหมาย