ลำพูน - ชาวลำพูนร่วมงานประเพณีเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพ “ครูบาอภิชัยขาวปี” ศิษย์ก้นกุฏิของ “ครูบาศรีวิชัย” นักบุญแห่งล้านนาไทย ในวันครบรอบปีที่ 37 มรณะกาลร่างไม่เน่าเปื่อย กลายเป็นหิน
รายงานข่าวจากจังหวัดลำพูนแจ้งว่า บริเวณลานวัดพระพุทธบาทผาหนาม ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ช่วงบ่ายแก่ๆ จนถึงเย็นวานนี้ (4 มี.ค.) เนืองแน่นไปด้วยสาธุชน-คณะสงฆ์ ที่พากันมาร่วมงานประเพณีเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพครูบาอภิชัยขาวปีอย่างล้นหลาม
ซึ่งวันที่ 4 มีนาคมเป็นวันครบรอบปีของการมรณภาพของครูบาอภิชัยขาวปี ที่ได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2520 ถ้าจะนับถึงปัจจุบันก็นับเป็นเวลาได้ 37 ปีล่วงไปแล้ว และทุกปีที่ผ่านมา ทางคณะสงฆ์-ศิษยานุศิษย์ ได้จัดให้มีประเพณีเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพของครูบาฯ เป็นประจำทุกปี
โดยปีนี้มีพระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์, นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกับนายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน, นายอุดม จันตาใหม่ นายอำเภอลี้, นายอัครเดช คัมภีระมนต์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ อ.ลี้ และนายรังสรรค์ มณีรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน เขต 2 พรรคเพื่อไทย และในงานนอกจากจะมีพิธีเปลี่ยนผ้าสรีระร่างศพครูบาอภิชัยขาวปีแล้วยังจัดให้มีถวายทานกองเจดีย์ทรายเขาวงกตอีกด้วย
“ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี” เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เดิมชื่อ จำปี เกิดในครอบครัวของผู้ที่มีฐานะยากจน บ้านแม่ตืน อ.ลี้ เมื่ออายุ 16 ปีมารดาได้นำไปฝากเป็นลูกศิษย์ของพระครูบาศรีวิชัย ซึ่งพระครูบาศรีวิชัยได้ทำการบรรพชาให้เป็นสามเณร จนอายุครบ 22 ปี ครูบาศรีวิชัยก็ได้ทำการอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุ
จากนั้นได้ปฏิบัติธรรมเดินตามรอยทางของพระครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ ถึงกับมีชาวบ้านพูดกันว่า พระครูบาศรีวิชัยสร้างวัด แต่ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีสร้างโรงเรียน โดยได้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและพระพุทธศาสนาไว้อย่างมากมาย ได้แก่ เป็นประธานสร้าง รพ.ลำพูน ด้วยงบประมาณในการสร้างจากชาวบ้านได้ร่วมทำบุญบริจาคให้ครูบาขาวปี
เมื่อวันพ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดลำพูนในข้อหาหนีทหารเกณฑ์ โดยถูกขังคุกนานถึง 6 เดือน ในปี พ.ศ. 2497, สร้างอาคารเรียนโรงเรียนต่างๆ ทั่วภาคเหนือ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ จะสังเกตได้จากรูปวัว ซึ่งรูปนักษัตรปีเกิดของครูบาขาวปี ดังปรากฏจารึกติดไว้ตามหน้าจั่วอาคารเรียนที่ครูบาขาวปีได้เป็นผู้สร้างไว้ทุกแห่ง นอกจากนี้ยังร่วมบูรณะวัดวาอารามต่างๆ ทั่วภาคเหนือมากกว่า 100 วัด
ด้วยอานิสงส์แห่งการเป็นพระนักพัฒนา และรักษาศีลภาวนามาตลอดเมื่อครั้งยังมีชีวิต แม้ท่าน จะมรณภาพไปแล้วนานถึง 37 ปี แต่สังขารของท่านก็ยังคงไม่มีการเน่าเปื่อย เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนักจนกระทั่งตราบถึงปัจจุบัน