เกษตรกรร้อง ป.ถูกหลอกขายเมล็ดอินทผลัม เข้าข่ายฉ้อโกง

เกษตรกรภาคเหนือกว่า 10 รายร้องกองปราบฯ แจ้งจับเจ้าของบริษัทอ.สันทราย หลอกขายเมล็ดอินทผลัม โดยอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริ แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่รับซื้อต้นกล้าตามสัญญา มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พากลุ่มเกษตรกรกว่า 10 ราย จากหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.หลังจากทั้งหมดถูกนายทักษิน ศรีรินทร์ เจ้าของบริษัท พอเพียงพัฒนาวิสาหกิจชุมชน จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 214/2 หมู่ 6 ถนนเชียงใหม่ดอยสะเก็ด ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กับพวก หลอกลวงให้ซื้อเมล็ดอินทผลัม ตามโครงการ “สวนเกษตร อินทผลัม” แอบอ้างโครงการตามแนวพระราชดำริ โดยจะรับซื้อเป็นเพาะปลูกได้ต้นกล้า หรือผลอินทผลัมแล้ว แต่กลับไม่ได้รับซื้อตามที่กล่าวอ้าง สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

นายอัจฉริยะกล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรอยู่ทางภาคเหนือตอนบน ซึ่งประมาณปี 2555 บริษัทดังกล่าว ได้เข้ามาหลอกลวงผู้เสียหาย ว่า มีเมล็ดอินทผลัม ตามโครงการพระราชดำริ มาขายให้ในราคาเมล็ดละ 30 บาท เมื่อเพาะปลูกได้ต้นกล้า หรือออกผลมาแล้วก็จะรับซื้อคืนในราคาต้นละ 60 บาท ซึ่งเกษตรกรหลงเชื่อเพราะคิดว่าเป็นโครงการที่ดีและมีช่องทางที่จะได้กำไรจากการเพาะปลูก จึงตกลงทำสัญญาซื้อเมล็ด โดยแต่ละรายจะเสียเงินไปนับแสนบาท บางรายก็ถึงกับขายรถเพื่อนำเงินมาลงทุน แต่ภายหลังบริษัทแห่งนี้ กลับไม่รับซื้อผลผลิตอินทผลัม แต่อย่างใด

นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางบริษัทดังกล่าวยังอ้างกับเกษตรกรด้วยว่า หากเมล็ดที่ให้ไปเพาะปลูกไม่ขึ้นก็จะนำเมล็ดใหม่มาให้ เหมือนเป็นการรับประกันการเพระปลูก หรือหากบางรายไม่ต้องการขายผลก็จะรับซื้อต้นกล้าอินทผลัม แต่เวลาผ่านไปกว่า 6 เดือน ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ทั้งหมดกลับไม่มารับซื้อ แม้ว่าจะมีการติดตามทวงถามไปถึงสำนักงานบริษัทฯ ก็พบว่ามีการปิดตัวไปแล้ว

ขณะที่นางประนอม สุปันตา อายุ 44 ปี เกษตรกรในพื้นที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้ทำสัญญาซื้อเมล็ดอินทผลัมจากบริษัทนี้มาปลูก ตั้งแต่ปี 2555 โดยทางบริษัทอ้างว่าจะมารับซื้อคืน แต่พอปลูกไปแล้วก็ไม่มีการติดต่อรับซื้อ อย่างไรก็ดี ตนทราบมาว่าสำหรับบางรายทางบริษัทฯ ก็จะมาซื้อต้นกล้าแล้วนำไปหลอกลวงเกษตรกรรายอื่นๆ อีก โดยอ้างว่าจะขายต้นกล้าอินทผลัม โครงการพระราชดำริ จนทำให้มีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.เชียวดาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลงเชื่อถูกหลอกลวงอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุที่เข้าแจ้งความครั้งนี้เพราะไม่อยากให้มีผู้ใดหลงเชื่อถูกหลอกลวงเพิ่มเติม

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้นน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป