ลำพูน - ชาวสวนลำไยเมืองลี้รวมตัวหน้าอำเภอกว่า 200 คนเรียกร้องแก้ปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ขู่หากไม่รีบแก้เจอปิดถนนแน่ หลังจุดรับซื้อรายย่อยปิดรับซื้อทั่วอำเภอ ต้องแห่ขนขายล้งใหญ่จนต้องปิดรับซื้อซ้ำมาแล้ว
วันนี้ (6 ส.ค.) กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย อ.ลี้ จ.ลำพูน กว่า 200 คนรวมตัวกันหน้าที่ว่าการอำเภอ ยื่นข้อเสนอให้อำเภอผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ราคาไม่แน่นอน การติดประกาศราคาหน้าจุดรับซื้อเวลา 14.00 น. จุดตั้งเครื่องร่อนน้อยเกินไปไม่เพียงพอ จุดรับซื้อแต่ละจุดราคาไม่เท่ากัน และตั้งแต่ผลผลิตออกสู่ตลาด ชาวสวนไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ แม้เคยลงทะเบียนขอความช่วยเหลือไปแล้วก็ตาม
กลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 6 ข้อ คือ 1. ต้องแจ้งราคาลำไยให้รู้ล่วงหน้าในเวลา 07.00 น.ของทุกวัน 2. ให้มีโควตารับซื้อลำไยของเกษตรกรในแต่ละวันอย่างทั่วถึง 3. ให้แก้ปัญหาราคารับซื้อให้คงที่ 4. ให้จุดรับซื้อราคาลำไยทุกวันให้เป็นไปตามราคากลาง คือกิโลกรัมละ 19-9-4 บาทตามลำดับ 5. ขอให้ภาครัฐเพิ่มจุดรับซื้อลำไย และ 6. ขอให้ภาครัฐชดเชยและช่วยเหลือผลผลิตที่ล้นตลาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้จัดตัวแทน 30 คนเข้าประชุมหารือกับภาครัฐต่อไป ล่าสุดเกษตรกรยังชุมนุมเพื่อรอฟังผลการเจรจากับทางอำเภอเพื่อหาทางออกต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวสวนลำไย อ.ลี้ ประสบปัญหาการจำหน่ายผลผลิตครั้งใหญ่ เนื่องจากจุดรับซื้อลำไยทุกแห่งใน อ.ลี้ จ.ลำพูน หยุดซื้อลำไยเพราะประสบกับปัญหาราคาที่ไม่แน่นอน และไม่สามารถรับซื้อราคาลำไยตามที่ภาครัฐร้องขอราคากิโลกรัมละ 20 บาทได้ ทำให้ชาวสวนต่างพากันนำลำไยไปขายที่ล้งของบริษัทไทยโทน จำกัด เลขที่ 43 หมู่ 11 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จนล้นทะลักทำให้ล้งต้องปิดประตูโรงงานเพื่อรอระบายสินค้าออกก่อน
น.ส.ชิดจันทร์ ห่ง อายุ 26 ปี หรือเจ๊พลอย เจ้าของล้งไทยโทน กล่าวว่า จากการที่ภาครัฐร้องขอให้รับซื้อลำไยขนาด AA ราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20 บาท เราก็ให้ความร่วมมือมาตลอด แต่วานนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คือ จุดรับซื้อรายย่อยพากันปิดหยุดรับซื้อทั้งอำเภอ โดยที่ชาวสวนไม่รู้ล่วงหน้า ทำให้ชาวสวนพากันนำลำไยมาขายให้กับล้งจำนวนมาก จากเดิมที่รับซื้อได้ 250,000 กิโลกรัมต่อวัน แต่วานนี้ต้องรับไว้เกิน 6 แสนกิโลกรัม จนทางล้งรับไม่ไหวต้องปิดประตูล้ง และแก้ปัญหาโดยการออกบิลไว้เพื่อให้มารับเงินสดในวันต่อไปเพราะมีเงินสดไม่พอ
“ปกติเราจะเตรียมเงินสดไว้รับซื้อได้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อวัน แต่ชาวสวนสามารถมารับเงินในวันนี้ (6 ส.ค.) ได้เลย และสามารถนำมาขายในวันพรุ่งนี้ได้อีกเรื่อยๆ”
น.ส.ชิดจันทร์กล่าวว่า ปกติแต่ละวันมีลำไยในโควตาของเราอยู่แล้ว แต่วันนี้ต้องแก้ปัญหาโดยการเอาลำไยในโควตาไปรอไว้ก่อนเพื่อรับซื้อของเกษตรกร แล้วจึงนำของเราเข้าเตาอบต่อไป ถือเป็นการช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้น ซึ่งอยากขอร้องให้ภาครัฐเข้ามาดูแลแก้ปัญหาของเกษตรกร เพราะทางล้งทำเท่าที่เราทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น