ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านชุมชนเตาถ่าน สุดทนพฤติกรรมพ่อใจร้ายกักขัง 2 ลูกสาว วัย 4 ขวบ และ 2 ขวบเศษอยู่อย่างอดอยาก ผจญชะตากรรมในห้องแคบๆ ระบายความเครียดถูกเมียทิ้ง ด้วยการใช้ไม้แขวนเสื้อกระหน่ำตีลูก ส่งเสียงหวีดร้องอย่างเวทนา ชาวบ้านสุดทนโร่แจ้งตำรวจจับพ่อใจร้าย
วันนี้ (4 มี.ค.) ร.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา ร้อยเวรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านมีเด็กถูกกักขัง และถูกพ่อในไส้ตีอย่างน่าเวทนา ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซ.สัตหีบสุขุมวิท 3 ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว หน้าต่าง ประตูหน้าบ้าน และหลังบ้านถูกปิดล็อก มีกรงเหล็กชั้นใน และที่หน้าต่างข้างบ้านพบเด็กหญิงสาว 2 พี่น้อง วัย 2 ขวบเศษ และ 4 ขวบ เนื้อตัวมอมแมมกำลังยืนเกาะกรงเหล็กขออาหารจากชาวบ้านอย่างน่าเวทนา ท่ามกลางความเป็นอยู่ที่สุดแสนลำเค็ญ สกปรก รกรุงรัง มีห่อขยะอาหาร และอาหารสดทิ้งกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงปลดล็อกกุญแจก่อนเข้าไปทำการช่วยเหลือ พร้อมให้กล้วย และขนมได้กินเป็นอาหารรองท้องแก้หิว เมื่อตรวจสอบตามตัวของเด็กทั้ง 2 พบ มีรอยเขียวฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนผู้เป็นพ่อทราบชื่อคือ นายเอกชัย ศรสุริยา อายุ 24 ปี อาชีพ ช่างซ่อมรถยนต์ ได้หายตัวออกไปจากบ้าน
สอบถาม นางสมรักษ์ เจริญสุข อายุ 58 ปี แพทย์ตำบลเผยว่า หลังภรรยา นายเอกชัย ได้เลิกราทิ้งไปมีสามีใหม่ ตั้งแต่ลูกคนสุดท้องเพิ่งลืมตาดูโลกเพียงไม่กี่วัน นายเอกชัย ต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 ลำพัง หาเลี้ยงปากท้องด้วยการเป็นช่างซ่อมรถยนต์
ระยะหลังด้วยอาการเครียดที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว และไม่มีเวลาดูแลลูกจึงต้องกักขังลูกทั้ง 2 ใช้ชีวิตลำพังในบ้านที่ลูกล็อกประตูแน่นหนา เมื่อกลับมาเห็นลูกงอแงก็ระบายด้วยการใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนลูกๆ ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดส่งเสียงดังไปทั่วหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ
ทุกๆ วัน ชาวบ้านที่อาศัยจะทำได้เพียงแอบเอาอาหารไปหย่อนให้ทางช่องหน้าต่าง เพื่อให้เด็กได้มีอาหารประทังชีวิต กระทั่งสุดทนต่อการกระทำที่ชอบตีลูกอย่างโหดร้าย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับตัวผู้เป็นพ่อ
ร.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา ร้อยเวร สภ.สัตหีบ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ติดตามตัวผู้เป็นพ่อมาได้แล้ว พร้อมควบคุมตัวไปสวบสวนทำประวัติยังห้องสอบสวนคดี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเหตุดังกล่าวยังไม่ถือเป็นการทารุณ หรือรุนแรงมากนัก แต่อาจจะขัดต่อความรู้สึกของชาวบ้าน จึงให้ทำประวัติไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขั้นอีกก็จะจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน