xs
xsm
sm
md
lg

“เอสซีจี เปเปอร์” ชูขยายกำลังผลิตสูงสุดในอาเซียน 2.3 ล้านตัน เพิ่มส่งออกต่างประเทศพร้อมผลิตสินค้าใหม่ Dissolving Pulp

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะผู้บริหารเอสซีจี เปเปอร์ ให้ข้อมูลถึงทิศทางการพัฒนาธุรกิจในเครือเอสซีจี เปเปอร์ปี 2557
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เอสซีจี เปเปอร์” เดินหน้าธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ พร้อมธุรกิจเยื่อกระดาษต่อเนื่อง เล็งขยายตลาดส่งออกในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะตลาดเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่เศรษฐกิจขยายตัวสูง ทุ่มลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตเพิ่มอีก 4 แสนตัน ส่งผลมีกำลังผลิตรวมกว่า 2.3 ล้านตัน สูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน พร้อมโชว์นวัตกรรมใหม่ Dissolving Pulp นำเยื่อกระดาษผลิตเสื้อผ้า และภาชนะเมลามีน มั่นใจลู่ทางขยายตัวสูงในอนาคต

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มเอสซีจี เปเปอร์ เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มเอสซีจี เปเปอร์ เมื่อปีที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จน่าพอใจ มียอดขายรวมทุกบริษัทในกลุ่มกว่า 59,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 3% โดยมีผลกำไรในธุรกิจประมาณ 3,400 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 3% เช่นกัน

ทิศทางการดำเนินงานในปี 2557 เอสซีจี เปเปอร์ จะมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างนวัตกรรมตอบสนองผู้บริโภค ควบคู่พัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างความแข็งแกร่ง 2 สายธุรกิจหลัก ประกอบด้วย สายธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ โดยในปี 2557 เอสซีจี เปเปอร์ ได้กำหนดทิศทางดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอาเซียนที่คาดว่าเติบโตต่อเนื่อง

ตลาดภายในประเทศมีการแข่งขันที่รุนแรง กอปรกับความไม่แน่นอนทางการเมือง การดำเนินธุรกิจของกลุ่มเอสซีจี เปเปอร์ ปีนี้จะให้ความสำคัญต่อการส่งออกมากขึ้น พร้อมกับการลงทุนในระยะยาวควบคู่กับการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งตอบสนองความต้องการผู้บริโภค จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดในกลุ่มอาเซียนเป็นตลาดที่น่าสนใจเอสซีจี เปเปอร์ จะหาลู่ทางขยายตลาด โดยเฉพาะตลาดเวียดนาม และอินโดนีเซีย มีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงมาก

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดในกลุ่มอาเซียนที่ขยายตัว โดยเพิ่มเงินลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท เพิ่มกำลังผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์กว่า 400,000 ตัน/ปี เริ่มผลิตได้ในปี 2557 นี้ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์รวมทั้งหมดกว่า 2.3 ล้านตัน ทำให้เอสซีจี เปเปอร์ เป็นผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกรายใหญ่ที่สุดอาเซียน โดยบริษัทพร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ที่หลากหลาย ขยายทิศทางบรรจุภัณฑ์ไปยังกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์อื่น ตอบสนองในลักษณะครบวงจร

ด้านนายพันเทพ สุภาไชยกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ในเอสซีจี เปเปอร์ กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนา Dissolving Pulp จากไม้ยูคาลิปตัส เพื่อผลิตเส้นใยเรยอนในอุตสาหกรรมสิ่งทอ นำผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม ภาชนะเมลามีน โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มที่ผลิตจากเส้นใยเรยอน มีจุดเด่นเบาสบาย ระบายอากาศ และความร้อนได้ดี โดยบริษัทใช้ฐานการผลิตที่โรงงานฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เป็นฐานผลิต Dissolving Pulp ซึ่งปีที่ผ่านมา สามารถผลิตได้ทั้งสิ้น 96,000 ตัน/ปี

ทั้งนี้ การผลิต Dissolving Pulp ของเอสซีจี เปเปอร์ ถือเป็นรายแรกในไทยมีคุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลก ซึ่งตลาดโลกมีความต้องการสูงถึง 4 ล้านตัน/ปี คาดว่าความต้องการจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเติบโตร้อยละ 6 และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถผลิตเป็นสินค้าที่หลากหลาย ทั้งเครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์ภาชนะเมลามีน ซึ่งเอสซีจีมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยี และบุคลากร มีห้องวิจัยและทีมงานศึกษาความต้องการลูกค้า ส่งผลให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงความต้องการลูกค้าได้อย่างสูงสุด
นายรุ่งโรจน์  รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์
นายพันเทพ สุภาไชยกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ในเอสซีจี เปเปอร์

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ผลิตจาก Dissolving Pulp



กำลังโหลดความคิดเห็น