อุทัยธานี - พบแล้วพระพุทธรูปล้ำค่าอายุกว่า 200 ปี วัดโบสถ์ โบราณสถานสำคัญเมืองอุทัย หลังถูกโจรกรรมไป ล่าสุด ชายลึกลับโทร.แจ้ง ผบก. อ้างเจอทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างถนน 333
วันนี้ (23 ก.พ.) พล.ต.ต.ชัชชวาล วชิรปราณีกูล ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี นำตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และกำลังไปตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งจากชายลึกลับว่า พบพระพุทธรูปล้ำค่าถูกทิ้งไว้ในป่าละเมาะข้างถนนสาย 333 กม.13-14 ขาเข้าเมืองอุทัยธานี
พบพระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์ ลงรักปิดทองลายดอกพิกุล ประดับกระจกเกียบ 1 องค์ สูง 2 เมตร ตรงกับพระพุทธรูปของวัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์สมัยกรุงรัตน์โกสินทร์ตอนต้น อายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ซึ่งถูกคนร้ายโจรกรรมไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา 2 องค์ ถูกนำมาวางไว้กับพื้น ลักษณะคว่ำหน้า พร้อมกับชิ้นส่วนเป็นฐานองค์พระ อยู่ลึกจากถนนเข้าไปเพียง 10 เมตรเท่านั้น
ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเอาไว้ จากนั้นนำพระพุทธรูปล้ำค่ามาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมือง เพื่อตรวจอย่างละเอียด พร้อมเชิญ พ.อ.จเร ศรีสุก มัคกุเทศก์จิตอาสามาตรวจสอบ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ และเชี่ยวชาญเรื่องนี้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นพระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์ ของวัดอุโปสถาราม ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปจริง และพบร่องรอยชำรุดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับพระพุทธรูปองค์นี้ถือเป็นองค์ที่ 2 ที่ได้คืนมา เพราะ พล.ต.ต.ชัชวาลย์ ได้รับแจ้งจากชายลึกลับก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว ว่า พบพระรูปล้ำค่าถูกทิ้งไว้ไว้ในเขต ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลงรักปิดทองลายดอกพิกุลประดับกระจกเกียบ และเมื่อได้รับพระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์คืนมาอีก ก็ถือว่าทางวัดได้พระพุทธรูปที่ถูกโจรกรรมไปครบทั้ง 2 องค์แล้ว
หลังจากข่าวแพระสะพัดออกไป มีชาวบ้านได้เดินทางมาดู และกราบไหว้บูชาแสดงความดีใจพร้อมกับสาปแช่งคนร้าย อย่างไรก็ตาม ตำรวจพร้อมชุมชนจะอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์แห่ไปรอบเมือง และนำกลับไปประดิษฐานภายในวิหารของวัดอุโปสถาราม
พล.ต.ต.ชัชวาลย์ กล่าวว่า เหตุที่ได้พระพุทธรูปคืนมาทั้ง 2 องค์ น่าจะเกิดจากการติดตามกดดันแก๊งคนร้ายอย่างใกล้ชิด กระทั่งรู้ว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ไม่มีหลักฐานที่จะมัดตัว ประกอบกับอาจจะเป็นเพราะแรงอธิษฐานสาปแช่งของชาวบ้าน และความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูป ที่ดลจิตดลใจให้คนร้ายต้องแจ้งเบาะแสให้มารับพระพุทธรูปคืนในที่สุด