พิษณุโลก - โจรใจบาปตัดกุญแจ ก่อนใช้เท้าถีบประตูมณฑปเข้าขโมยพระพุทธรูปปางนาคปรก ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว วัดตาปะขาวหาย หนีลอยนวล
วานนี้ (13 ต.ค.) ร.ต.ท.สาลี ดวงอุประ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุลักพระพุทธรูปที่วัดตาปะขาวหาย หมู่ 4 ต.หัวรอ จึงไปตรวจสอบ พบพระสิทธิชัย สีลสาโร พระลูกวัดตาปะขาวหาย และนายสะอิ้ง ฟูเต็ม รองประธานกรรมการวัด และประธานสภาวัฒนธรรมตำบลหัวรอ และกรรมการวัด รอนำชี้จุดเกิดเหตุที่คนร้ายขโมยพระพุทธรูปปางนาคปรก ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ภายในมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทด้านหน้าทางเข้าวัด
โดยพบว่าคนร้ายใช้คีมตัดลูกกุญแจสายยูกลอนประตูมณฑปบริเวณประตูหน้าของมณฑป หรือมุขด้านตะวันออก บริเวณประตูมีรอยรองเท้าที่คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ถีบเข้าไปภายในมณฑป
ขณะที่ภายในมณฑปมีพระพุทธรูปทองเหลืองปางนาคปรก เป็นพระประจำวันเสาร์ที่เคยประดิษฐานอยู่บนโต๊ะหมู่หายไป 1 องค์ และพบว่าคนร้ายได้เปิดสลักประตูด้านในทางด้านทิศเหนือออกไป
พระสิทธิชัยกล่าวว่า เป็นผู้ดูแลมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของวัด โดยวันก่อนหน้านี้ได้มาทำความสะอาดบริเวณรอบมณฑป จากนั้นจะเข้ามาทำความสะอาดภายในมณฑป พบว่าประตูมุมด้านหน้ามีร่องรอยเปิดแง้มไว้ และมีร่องรอยถูกตัดกุญแจสายยูที่คล้องประตู จึงเข้าไปตรวจสอบภายในพบว่าพระพุทธรูปปางนาคปรกหายไป 1 องค์ จึงเรียกกรรมการวัดมาช่วยตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีทรัพย์สินอะไรหายไปบ้างหรือไม่
ทั้งนี้ ปกติวัดตาปะขาวหายจะปิดล็อกประตูทางเข้าวัดเวลา 20.00 น.ของทุกวัน แต่เนื่องจากวันที่ 12 ตุลาคมเป็นวันพระ มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมตอนกลางคืน จึงไม่ได้ล็อกกุญแจ เพียงแต่ปิดประตูด้านหน้าไว้เท่านั้น
นายสะอิ้ง ฟูเต็ม รองกรรมการวัดตาปะขาวหาย และประธานสภาวัฒนธรรมตำบลหัวรอ กล่าวว่า รอยพระพุทธบาทในมณฑปของวัดตาปะขาวหายเป็นของเก่าแก่ และมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับชาวตำบลหัวรออย่างมาก เป็นพระพุทธบาทที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสร้างไว้ และนำมาประดิษฐานที่วัด ทางวัดจึงสร้างมณฑปไว้ และนำพระพุทธรูปที่สำคัญมาเก็บรักษาไว้ที่มณฑป สำหรับพระที่หายไปนั้นเป็นพระประจำวันเสาร์ ตั้งอยู่ในมณฑปมานานแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานตำรวจวิทยาการมาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป