ชาวนาพิจิตรเริ่มประสานมวลชนทุกกลุ่ม ระดมคนหมุนเข้ากรุงทวงเงินจำนำข้าว-ร่วมเวที กปปส.

พิจิตร - เครือข่ายชาวนา-สมัชชาเกษตรกรรายย่อยเมืองชาละวัน ประสานเครือข่ายมวลชนอื่นในพื้นที่ ระดมคนหมุนเวียนเข้ากรุงทวงเงินจำนำข้าวให้ได้ พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหวไล่รัฐบาลรักษาการ-ปฏิรูปประเทศ

วันนี้ (16 ก.พ.) นายอาวุธ เดชอุปการ แกนนำกลุ่มเสรีชนคนพิจิตรรักชาติ รักประชาธิปไตย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทวงเงินจำนำข้าวที่ชาวนาพิจิตรกว่า 4 หมื่นครอบครัวนำข้าวเข้าโครงการรับจำจำของรัฐบาลฤดูการผลิต 56/57 ว่า ล่าสุดก็ยังไม่ได้เงินค่าข้าวจากรัฐบาล

ขณะที่กลุ่มสมัชชาเกษตรกรรายย่อย จ.พิจิตร ที่มีนายสนั่น บุญมี นำชาวนากว่า 100 คน เดินทางไปร่วมชุมนุมกับ กปปส.ในกรุงเทพฯ เพื่อทำกิจกรรมบอกรักประเทศไทย และได้เดินทางกลับบ้านมาถึงพิจิตรแล้ว และทันทีที่มาถึงแกนนำทุกคนต่างลงพื้นที่ไปขยายผล เพื่อชักชวนชาวนาให้ช่วยกันเข้าไปชุมนุมกับ กปปส.ที่กรุงเทพฯ อีก

ดังนั้นคืนนี้ (16 ก.พ.) เวลา 22.00 น. ตนพร้อมกลุ่มเสรีชนคนพิจิตรจะนำชาวนาและมวลชนกว่า 300 คนเดินทางโดยรถบัสและรถกระบะไปสมทบกับกลุ่มของชาวนาที่ชุมนุมเรียกร้องอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ และจะไปชุมนุมกันที่เมืองทองธานี เนื่องจากทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวใช้เป็นที่ทำงานเพื่อทวงเงินจำนำข้าวและขับไล่รัฐบาลอีกด้วย จากนั้นจะไปปักหลักชุมนุมที่เวทีสีลมกับ กปปส.เพื่อค้างแรม

ด้านนายเตชิต รัชตรุ่งโรจน์ รักษาการเลขาธิการ กปปส.พิจิตร เปิดเผยว่า กลุ่มของตนเองมีกว่า 2 พันคนกระจายอยู่ในทุกหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการครู พยาบาล พ่อค้า นักธุรกิจ นักศึกษา นักการเมืองท้องถิ่น คนกลุ่มนี้แตกต่างกับสองกลุ่มแรก คือ จะมีเวลาไปร่วมชุมนุมกับ กปปส.เฉพาะช่วงวันหยุดเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา 4 เดือนก็สลับสับเปลี่ยนกันไปทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ โดยเฉลี่ยค่าโดยสารรถกันประมาณคนละ 400 บาท แต่ก็มีผู้มีฐานะบางคนสมทบมากกว่า 400 บาท จึงทำให้มีทุนเป็นกองกลางในการขับเคลื่อน สามารถทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กลุ่มมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวประท้วงขับไล่รัฐบาล ผลักดันการปฏิรูปประเทศไทย รวมถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมทวงเงินจำนำข้าวในพิจิตร มีอยู่ด้วยกันมากถึง 5-6 กลุ่ม แต่ละกลุ่มต่างมีมวลชนอยู่ในมือ

ประกอบด้วย กลุ่มของนายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ซึ่งขณะนี้ปักหลักชุมนุมค้างแรมอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ กลุ่มนายโชคชัย ด่านรุ่งโรจน์ นายก อบต.ปากทาง ซึ่งมีพี่ชาย คือ นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ เป็นรองนายก อบจ. และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ว.พิจิตร ที่จะมีการรับสมัครวันที่ 4 มีนาคม 2557 เป็นแกนนำ กลุ่มนี้ก็จะมีกิจกรรมเฉพาะในพื้นที่ที่มีการตั้งเวทีระดมชาวนา และนักการเมืองท้องถิ่น ให้ช่วยกันสู้เพื่อปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งบ่อยครั้งที่จัดกิจกรรมที่บริเวณสนามหน้า อบจ.พิจิตร มีมวลชนประมาณ 3 พันคน

กลุ่มของนายประกาศิต แจ่มจำรัส นายก อบต.ท้ายน้ำ และนายมนูญ มณีโชติ แกนนำชาวนา และพวกผู้นำรวมแล้วประมาณ 20 คน กลุ่มนี้มีเป้าหมายทวงเงินจำนำข้าวเป็นหลัก มีการเชื่อมร้อยเครือข่ายกับชาวนา 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง มีมวลชน 2-3 พันคน ทุกครั้งที่มีการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยง แต่อาศัยการเรี่ยไรบริจาคจากชาวนาด้วยกัน ล่าสุดหลังจากไปถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานความเมตตาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วก็หยุดกิจกรรม แต่ประกาศว่าหลังวันที่ 25 ก.พ. ถ้าไม่ได้เงินจะปลุกชาวนาให้ออกมาประท้วง และอาจยกระดับเป็นการขับไล่รัฐบาล

กลุ่มของนายเตชิต รัชตรุ่งโรจน์ รักษาการเลขาธิการ กปปส.พิจิตร กลุ่มนี้เป่านกหวีดครั้งใดสามารถเชิญชวนมวลชนเข้ากรุงเทพฯ ได้อย่างน้อย 20 คันรถบัส หรือ 1 พันคน

กลุ่มนางชนกวรรณ บุญรักษา “เจ๊ศรี” เจ้าของร้านเพชรทองพรส่งศรีพิจิตร กลุ่มดวงใจบุ๊ค กลุ่มหมอสุรเดช กลุ่มคุณแจ๊ด ไอคิวคอม กลุ่มเปี๊ยกพันธมิตร กลุ่มดีเจพะโล้ กลุ่มคุณเจี๊ยบบ้านป่าแดง หนองพยอม ตะพานหิน ผู้ใหญ่ปราณี คลองคะเชนทร์ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีฐานะ สืบทอดเจตนารมณ์มาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกลุ่มของเจ๊ศรี ส่วนใหญ่เป็นชาวพิจิตร ตะพานหิน บางมูลนาก มีมวลชนรวมกันแล้วกว่า 500 คน มีเจตนาขับไล่รัฐบาลและปฏิรูปประเทศไทยชัดเจน

กลุ่มของนายอาวุธ เดชอุปการ แกนนำกลุ่มเสรีชนคนพิจิตร รักชาติ รักประชาธิปไตย ซึ่งมีมวลชนเป็นชาวนาลุ่มน้ำยม และสมาชิกของคนรักพรรคประชาธิปัตย์พิจิตร มีมวลชนเชื่อมต่อกับกลุ่มของนายสนั่น สมัชชาเกษตรกรรายย่อย พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับผู้นำท้องถิ่นในเขต อ.สามง่าม อ.วชิรบารมี อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.วังทรายพูน อ.สากเหล็ก ที่มีมวลชนเป็นชาวนาและทุกสาขาอาชีพมากกว่าพันคน กลุ่มนี้พร้อมเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมปักหลักค้างแรม

ซึ่งทั้งหมด 6 กลุ่มใหญ่ขณะนี้มีการบูรณาการพูดคุยกันของกลุ่มแกนนำแล้วว่าจะรวมกันให้เป็นเอกภาพ เป้าหมาย 3 ข้อหลัก คือ ทวงเงินจำนำข้าว ขับไล่รัฐบาล ปฏิรูปประเทศไทย มีการจับมือกันว่าจะสลับสับเปลี่ยนนำมวลชนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อปฏิบัติการร่วมกับเวที กปปส.อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้