รวบพ่อลูกลอบตัดไม้พะยูงอุทยานฯ ทับลาน แฉพบกองกำลังเขมรติดอาวุธเกลื่อนป่า

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รวบพ่อลูกลอบรวมหัวลอบตัด และลำเลียงไม้พะยูง ค่ากว่า 1 ล้าน ออกจากอุทยานฯ ทับลาน เตรียมขนส่งขายนายทุน แต่ถูกตำรวจรวบได้ก่อน เผยพบกองกำลังเขมรติดอาวุธสงครามชุดละ 10-20 คน คอยคุ้มกันแก๊งตัดไม้พะยูง ยึดอาณาเขตตรึงกำลังเกลื่อนป่าเขตทับลาน-ปางสีดา

วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ห้องสอบสวน สภ.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.ดุสิต สมจินดา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เสิงสาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธรณีศ ไตรวงศา รอง ผกก.งานป้องกันและปราบปราม ทำการสอบปากคำ นายราชประสงค์ อินทมาตร์ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 6 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นายรัตน์ อินทมาตร์ อายุ 30 ปี ลูกชาย อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน และนายอภิสิทธิ์ พิษแสง อายุ 20 ปี ไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ที่ 6 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง

หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงพื้นที่ป่ามรดกโลก ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (ศปพ.อส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง จับกุมได้ขณะกำลังช่วยกันลำเลียงไม้พะยูงแปรรูป ขนาดหน้ากว้างตั้งแต่ 20-30 ซ.ม. ยาว 2 เมตร ปริมาตรรวม 0.46 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ออกมาจากป่าวังเสถียร ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง มาพักไว้ริมเขื่อนลำปลายมาศ เพื่อเตรียมขนขึ้นเรือนำไปส่งให้กับกลุ่มลำเลียงไม้ส่งนายทุนอีกรอบ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และเลื่อยโซ่ยนต์อีก 1 เครื่อง

นายราชประสงค์ หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ได้เข้าไปลักลอบไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งไม้ที่ตัดแปรรูปออกมานั้นเป็นไม้ที่อยู่แนวเขตรอยต่อระหว่างพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสระแก้ว เขตติดต่อกันระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน และอุทยานแห่งชาติปางสีดา ก่อนช่วยกันขนย้ายไม้มาส่งให้ชุดลำเลียง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งไม้ชุดนี้ราคาจำหน่ายเมื่อถึงมือชุดลำเลียงต่อจะได้ประมาณแผ่นละ 40,000 บาท แต่หากเอาไปขายส่งนายทุนจะมีราคาสูงถึงแผ่นละ 1 แสนบาท

นายราชประสงค์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตนเข้าไปตัดไม้ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน พบว่ามีกลุ่มชาวกัมพูชาติดอาวุธสงคราม ปืนอาก้าเป็นชุดคุ้มกันกลุ่มผู้ตัดไม้พะยูงกระจายอยู่ในพื้นที่ป่าอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 10-20 คน มีการยึดอาณาเขตตรึงกำลังโดยรอบเพื่อไม่ให้กลุ่มอื่นบุกเข้าไปตัดไม้ในเขตของตัวเอง ซึ่งหากพบก็จะมีการปะทะกัน ในส่วนของกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาวุธสงคราม มีเพียงปืนไทยประดิษฐ์ หรือปืนทั่วไปที่ใช้พอป้องกันตัวได้เท่านั้น

พ.ต.อ.ดุสิต สมจินดา ผกก.สภ.เสิงสาง กล่าวว่า จากการลักลอบตัดไม้พะยูงจำนวนมากในอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้ไม้พะยูงมีจำนวนลดลง และเหลืออยู่ค่อนข้างน้อย กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้จึงเริ่มขยายฐานไปตัดไม้ถึงเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดาแล้ว