xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาหมดหวังจำนำตันละหมื่นห้า ตัดขายข้าวนาปรังตันละ 6 พันแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวนาสุดระทม ตัดขายข้าวนาปรังเข้าโรงสีได้เงินสดดีกว่ารอเงินจำนำของรัฐที่ไร้อนาคต เอ็นจีโอชี้ประชานิยมล้มเหลว นโยบายจำนำข้าวหมื่นห้า “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ถึงทางตันแล้ว ฝืนเดินหน้าต่อประเทศไทยมีหวังพัง

วันนี้ (8 ก.พ.) นางสุพัตรา ดินแดง อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 13 ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ครอบครัวทำนา 50 ไร่ ส่วนน้องทำ 24 ไร่ พ่ออีก 28 ไร่ เกี่ยวข้าวได้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ก็เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวตันละ 15,000 บาททั้งหมด แล้วรับใบประทวนมา แต่ถึงวันนี้ยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว รวมแล้วรัฐบาลติดหนี้เฉพาะครอบครัวตน 543,000 บาท

“ไม่คิดเลยว่ารัฐบาลจะไม่มีเงินจ่าย วันนี้ไม่ได้เงินสักบาท ผ่านไปเกือบ 5 เดือนแล้วก็ยังไร้วี่แวว เดือดร้อนกันไปหมด”

นางสุพัตรา กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าชาวนาเอาข้าวไปร่วมโครงการแล้วไม่นานก็จะได้เงิน พอเกี่ยวข้าวเสร็จวันที่ 1 ตุลาคม 2556 วันที่ 14 ตุลาคม ก็ไปกู้เงินมาลงทุนทำนาปรังรอบใหม่ 30 ไร่ จนผ่านไปกว่า 100 วัน ก็เกี่ยวข้าวนาปรังรอบใหม่ แต่เงินเก่าที่รัฐบาลยังไม่ได้จึงตัดสินใจขายข้าวเงินสดให้โรงสีแทน ได้เงินมา 130,000 บาท ต้องจ่ายทั้งค่าไถนา พันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยา พอมีเหลืออยู่ประมาณ 3 หมื่นบาท

นางอรพรรณ บันสุคร ชาวนา อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กล่าวว่า ทำนา 42 ไร่ ลูกชายทำนา 51 ไร่ ยังไม่ได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. โดยค้างอยู่คนละกว่า 2 แสนบาท วันนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงมาขอที่พึ่งสุดท้าย คือ ร่วมลงชื่อถวายฎีกาเพื่อขอเงินค่าข้าว

“เป็นชาวนาก็ต้องทำนา ไม่สามารถเลือกไปประกอบอาชีพใดๆ หลังเก็บเกี่ยวข้าวก็กู้เงินมาลุยทำข้าวนาปรังต่อ 50 ไร่ ล่าสุด ข้าวกำลังออกรวงก็ยังไม่รู้ว่าจะเสี่ยงไปจำนำข้าวต่ออีกไหม”

ขณะที่ นางทองคำ สนอ้อน อายุ 58 ปี ชาวนา ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เพิ่งได้รับเงินที่รัฐบาลโอนให้ ธ.ก.ส. โดยได้รับก่อนชาวนาคนอื่นที่ขึ้นทะเบียน เพราะหลังเก็บเกี่ยวก็รีบยื่นเอกสารเข้าร่วมโครงการเป็นคิวแรกๆ และได้รับเงิน 350,000 บาท จากที่ทำนาประมาณ 60 ไร่

ซึ่งตนยังปลูกข้าวอีกหลายไร่ แต่นำไปขายให้รัฐไม่ได้จึงต้องขายให้โรงสีแทน ได้เงินสดทันทีเกวียนละ 6,000 บาท ถือว่าโชคดี ที่รัฐบาลอุ้มข้าวเต็มโควตา ยังไม่รู้ว่าจะช่วยรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายหรือไม่

ด้านนายสาคร สงมา ผู้ประสานงานมูลนิธิคนเพียงไพร กล่าวว่า โครงการประชานิยมล้มเหลว นโยบายหาเสียงรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท มาถึงทางตันแล้ว ควรทบทวน หรือยกเลิกไปเลย หากฝืนอุ้มชาวนาต่ออีก 1-2 ปี ประเทศไทยมีหวังพัง เพราะรัฐบาลทำลายระบบค้าข้าวทั้งระบบ คิดผูกขาดการค้าข้าวโดยไม่สนว่าจะขายข้าวได้หรือไม่ ผลลัพธ์ก็คือ ประเทศไทยสูญเสียตำแหน่งแชมป์ส่งออกข้าวในตลาดโลก ไม่คิดเลยหรือว่าประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกอย่างไทยจะตกอยู่ในสภาพนี้ได้ ทั้งเวียดนาม พม่า แซงหน้าไปแล้ว

นนายสาคร กล่าวว่า ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะพิษร้ายของนโยบายประชานิยม ที่นำเงินภาษีของคนชั้นกลางไปอุดหนุนชาวนา หากมองในแง่ชาวนาก็ถือว่าโชคดี ที่ผลิตข้าวทั้งดี และด้อยคุณภาพรัฐบาลรับซื้อหมดในราคาที่สูงกว่าตลาด ซึ่งปัจจุบันโรงสีรับซื้อ 6,000 บาทต่อตัน แต่ก็เป็นความโชคร้ายของคนไทยทั้งประเทศที่รัฐบาลตั้งงบประมาณรับจำนำข้าว 15,000 บาทต่อตัน แต่เงินถึงมือชาวนา 11,000 บาทต่อตัน ถามว่าที่เหลือหายไปไหน

ทั้งนี้ โครงการจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 ในภาคเหนือมีวงเงินรวมประมาณ 63,000 ล่้านบาท แบ่งเป็นภาคเหนือตอนบน 12,000 ล้านบาท ภาคเหนือตอนล่าง 51,800 ล้านบาท โดยจ.นครสวรรค์ มีมูลค่าเปลือกสูงสุดที่ 10,000 ล้านบาท กำแพงเพชร 9,700 ล้านบาท พิจิตร 8,000 ล้านบาท พิษณุโลก 7,668 ล้านบาท พิษณุโลกคงเหลือค้างจ่ายเกือบ 5,000 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น