ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวบ้าน อ.ครบุรี โคราชผวาเสือโคร่งอาละวาด หลังต้อนฝูงวัวควายหนีแล้งเข้าไปเลี้ยงในป่าหนองไม้แดง เขตอุทยานฯ ทับลานถูกเสือตะปบแผลเหวอะ 3 ตัว และลูกวัวหายไปอีก 1 ตัว คาดเสือลากไปกิน ระบุพบรอยเท้าเสือเกลื่อน นอภ.สั่งห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่อุทยานฯ เหตุอันตรายและบุกรุก พร้อมประสานปศุสัตว์เข้ารักษาวัวที่บาดเจ็บ
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านตลิ่งชัน หมู่ที่ 5 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่ามีเสือโคร่งออกอาละวาดทำร้ายวัวจนได้รับบาดเจ็บหลายตัว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบ นางแพรวพันธุ์ ศรีสันเทียะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมวัวที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ตัว ผูกไว้ภายในบริเวณบ้าน ชื่อโอเล่ อายุ 10 ปี เพศเมีย มีบาดแผลถูกสัตว์ทำร้ายในลักษณะตะปบและกัดเป็นแผลเหวอะ ที่บริเวณขาหลังด้านซ้าย และสะบักขาหลังซ้าย
นางแพรวพันธุ์ ศรีสันเทียะ เจ้าของวัว เล่าว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนและสามีได้ต้อนฝูงวัวควาย รวม 97 ตัว ออกไปหากินหญ้าไกลจากพื้นที่เดิมเนื่องจากสภาพความแห้งแล้งทำให้ไม่มีหญ้าให้วัวควายกิน โดยได้ต้อนฝูงวัวควายออกไปหากินบริเวณป่าหนองไม้แดง เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กม. ซึ่งทุกปีในช่วงหน้าแล้งจะต้อนวัวควายมาหากินหญ้าและพักค้างแรมอยู่เป็นประจำ และกระทั่งกลางดึกฝูงวัวควายเกิดอาการตื่นตกใจและร้อง ตนและสามีคิดว่ามีสัตว์ร้ายเข้ามาในฝูงวัวควายจึงปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้และส่องไฟฉายไปรอบๆ กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงเหตุการณ์จึงสงบ จึงลงมาตรวจสอบพบว่าวัวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บถึง 3 ตัว ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ตัว
เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเดินสำรวจรอบๆ พื้นที่ที่ฝูงวัวควายอยู่ พบรอยเท้าเสือขนาดใหญ่วัดได้ยาวประมาณ 10 เซนติเมตรกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงนำวัวที่บาดเจ็บสาหัสซึ่งท้องแก่ใกล้คลอดกลับมาบ้าน ก่อนแจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อช่วยแจ้งข่าวเตือนไม่ให้ใครเข้าไปบริเวณดังกล่าวเพราะอาจถูกเสือทำร้ายได้ ส่วนวัวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นถูกเสือกัดเข้าที่ลำคอ และตะปบเข้าที่แผ่นหลังเป็นแผลเหวอะหวะ และในภายหลังต้องจำใจขายให้โรงเชือดไป
จากนั้น ตน และสามี พร้อมฝูงวัวควายยังคงพักค้างแรมในป่าจุดเดิมอีก 1 คืน เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นซ้ำอีก มีลูกวัวอายุ 7 เดือนหายไป 1 ตัว คาดเสือลากไปกินเป็นอาหารแล้ว จึงตัดสินใจทยอยต้อนวัวควายกลับมาเลี้ยงที่บ้านส่วนหนึ่งเพราะกลัวจะเกิดเหตุซ้ำอีก
“ตั้งแต่นำฝูงวัวควายหนีแล้งเข้าไปหากินตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานมาตั้งแต่ปี 2533 ก็ไม่เคยพบเสือเลยสักครั้ง จะพบเพียงฝูงกระทิงและช้างเท่านั้น แต่ปีนี้ต้องมาเผชิญกับเสือ จึงรู้สึกหวาดกลัวมาก” นางแพรวพันธุ์กล่าว
ด้าน นายลอย คบทองหลาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตลิ่งชัน หมู่ที่ 5 กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุได้รายงานไปยัง นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอครบุรี ก่อนนำทีมลงไปสำรวจพื้นที่ โดย นายโสภณได้สั่งการให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ประกาศแจ้งเตือนประชาชนห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปเลี้ยงในเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลานอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และอาจเกิดอันตรายได้ พร้อมกับได้ประสานไปยังปศุสัตว์อำเภอส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการรักษาวัวของชาวบ้านที่ถูกเสือทำร้าย ซึ่งขณะนี้ทางผู้นำชุมชนได้ทำป้ายแจ้งเตือนไปติดตั้งบริเวณชายป่าแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานแล้ว