บุรีรัมย์ - สองชาวนาบุรีรัมย์ร่ำไห้ ควายแม่พันธุ์พร้อมลูกตายวันเดียว 5 ตัวรวดหลังไปเกี่ยวหญ้าจากสุสานฝังศพมาให้กิน เผยเลี้ยงมาเกือบ 10 ปีไม่คิดขายแม้มีคนเสนอซื้อหลักแสน จนท.ปศุสัตว์รุดตรวจสอบเบื้องต้นระบุเหตุกินต้นไมยราบไร้หนามมีสารพิษ แนะชาวบ้านไม่ควรนำเนื้อควายไปรับประทาน พร้อมตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีควายของชาวบ้านบ้านโสน ต.บ้านตะโก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ตายโดยไม่ทราบสาเหตุวันเดียว 5 ตัวรวด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงหมู่บ้านโสน พบ นางทองเพชร สมบังใด อายุ 59 ปี อยู่เลขที่ 68 หมู่ 2 ต.ตะโก นั่งร่ำไห้ลูบคลำควายจำนวน 3 ตัว ชื่อว่า เจ้าทองดำ, ทองคำ และเจ้าทองขาว ทั้งหมดเป็นควายเพศเมียสามแม่ลูก ตัวแม่มีอายุ 7 ปี ตัวลูกอายุ 3 ปีเศษ ซึ่งทั้ง 3 ตัวกำลังตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว
อีกทั้งเป็นที่น่าเวทนาคือ ลูกเจ้าทองดำตัวล่าสุดที่เพิ่งออกมาได้เพียงประมาณ 6 เดือนและเหลืออยู่เพียงตัวเดียว วิ่งไปมารอบบริเวณคอกที่แม่ควายนอนตายพร้อมส่งเสียงร้องเรียกหาแม่อยู่ตลอดเวลา สร้างความเวทนาใจแก่ชาวบ้านที่มามุงดู
นอกจากนี้ยังพบควายของ นายสด สมหวังได้ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 เพื่อนบ้านซึ่งอยู่ใกล้กัน ตายในลักษณะเดียวกันอีก 2 ตัว เป็นควายเพศเมียอายุ 8 ปี และ 6 ปี แต่ที่สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้านคือ ควายที่ตายทั้ง 5 ตัวไม่มีบาดแผลของสัตว์มีพิษกัด และไม่เคยป่วยเป็นโรค เพราะควายของ 2 ครอบครัวนี้เจ้าของเลี้ยงดูอย่างดี และมีความผูกพันเพราะเลี้ยงมาเกือบ 10 ปีไม่เคยคิดจะขายถึงแม้จะมีพ่อค้ามาเสนอราคาให้ถึงหลักแสนบาทก็ตาม
นางทองเพชร สมบังใด บอกว่า ครอบครัวมีควายที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 4 ตัว โดยควายตัวแม่และลูกอีก 2 ตัวที่ตายกำลังตั้งท้อง จึงเป็นความหวังของครอบครัวเพราะตั้งใจว่าหากตกลูกออกมาจะขายเพื่อใช้หนี้ แต่กลับมาตายยกคอก ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะก่อนหน้านี้นางทองเพชร พร้อมเพื่อนบ้านรวม 3 คนได้ไปเกี่ยวหญ้าที่สุสานฝังศพหรือป่าช้าจีนในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์มาให้ควายกิน เพราะเป็นฤดูทำนาไม่มีสถานที่ปล่อยให้ควายกินหญ้าเหมือนกับหน้าแล้ง
แต่หลังจากนำหญ้ามาให้ควายกินก็พบว่าควายของตน และของนายสดตายวันเดียวกัน 5 ตัวรวด จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ซึ่งเหตุการณ์ที่ควายล้มตายครั้งนี้ทำให้ครอบครัวแทบหมดตัว จึงทำได้เพียงชำแหละเนื้อควายที่ตายแล้วแบ่งกันไปทำอาหารรับประทาน
ต่อมาหลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อำเภอห้วยราช ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบสาเหตุการตายของควายทั้ง 5 ตัว จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากสัตว์มีพิษกัด และไม่ได้ติดเชื้อโรคระบาด จึงคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ควายกินต้นไมยราบไร้หนามที่มีสารไนเตรด และสารไซยาไนด์ปนเปื้อนซึ่งเป็นพืชที่ห้ามสัตว์กินโดยเฉพาะวัวควาย หากกินเข้าไปในปริมาณมากหรือกินต้นแก่สารพิษจากต้นไมยราบดังกล่าวจะเข้าไปทำลายตับ ไต ทั้งยังเกิดกรดแก๊สในกระเพาะอาหาร จึงเป็นสาเหตุทำให้ควายล้มตายดังกล่าว
ทางด้านนายพจน์ภิรัตน์ เนียมจุ้ย ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แนะนำไม่ให้ชาวบ้านนำเนื้อควายที่ตายไปรับประทาน หรือจะรับประทานก็ควรทำให้สุกเพื่อให้อุณหภูมิความร้อนทำลายสารพิษที่อาจปนเปื้อนในเนื้อควายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ตัดชิ้นเนื้อควายที่ตายส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาสาเหตุการตายของควายให้แน่ชัดอีกครั้ง
พร้อมทั้งจะได้ลงพื้นที่แนะนำให้ความรู้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัว ควาย ถึงพืชต้องห้ามที่ไม่ควรนำมาให้สัตว์เลี้ยงกิน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก