ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรภาค 4 ตั้ง 2 ประเด็นมุ่งสังหาร “ขวัญชัย” ขัดแย้งส่วนตัว และขัดแย้งในกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ผลสืบสวนยังหาตัวคนร้ายไม่ได้ เผยคนใกล้ชิดอาจทรยศแจ้งเบาะแสให้คนร้าย คาดภายใน 2 สัปดาห์ออกหมายจับมือปืนและผู้ร่วมขบวนการได้
วันนี้ (5 ก.พ.) พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวถึงความคืบหน้าคดียิงนายขวัญชัย ไพรพนา ว่า ในทางคดีชุดสืบสวนสอบสวนยังคงลงพื้นที่หาข่าว และแกะรอยคนร้ายอย่างเต็มที่ ส่งผลให้คดีมีความคืบหน้าไปมากโดยเฉพาะกับการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และพยานแวดล้อมที่ได้สอบปากคำไปแล้วรวมกว่า 10 ปาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านของนายขวัญชัย และโดยรอบของสถานที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกัน ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตำรวจสามารถบันทึกไว้ได้ 2 จุดส่งผลต่อรูปคดีและแนวทางการสืบสวนอย่างชัดเจน ทั้งนี้เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้าย ได้ประสานขอทีมสืบสวนสอบสวนชั้นนำของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รวมทั้งหมด 5 ชุด ประกอบด้วย บก.ภ.จว.อุดรธานี, สภ.เมืองอุดธานี, บก.สส.ภ.4 รวมไปถึงชุดเฉพาะกิจประสานการทำงานระหว่างทีมสืบสวนกับพนักงานสอบสวนที่ บช.ภ.4 ได้แต่งตั้งขึ้นอีก
ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานรัดกุมและละเอียดเพิ่มขึ้น ต้องลงพื้นที่หาข่าวไปยังจังหวัดใกล้เคียง ทั้งที่ จ.หนองคาย, หนองบัวลำภู, นครพนม, สกลนคร และขอนแก่น ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีหลังก่อเหตุ
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวต่อว่า ขณะนี้อาการของนายขวัญชัยปลอดภัยแล้ว สามารถสื่อสารและขยับตัวได้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.สส.ภ.จว.อุดรธานี มาดูแลความปลอดภัยทั้งที่โรงพยาบาล และบ้านพัก ทั้งได้จัดชุดคุ้มกันให้คนในครอบครัวนายขวัญชัย เพราะเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจจะหวนคืนมาก่อเหตุอีกครั้ง
คนร้ายที่ก่อเหตุยิงนายขวัญชัยนั้นได้ติดตามพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของนายขวัญชัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าคนในมีส่วนรู้เห็นหรือเกลือเป็นหนอน เพราะนายขวัญชัยมักจะเดินทางตลอด แต่คนร้ายกลับเลือกลงมือขณะนายขวัญชัยกำลังพักอยู่ที่บ้าน อาจจะมีคนแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของนายขวัญชัยให้มือปืนรู้
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นการลอบสังหารนั้นให้น้ำหนักไว้ที่ปมขัดแย้งส่วนตัวและปมขัดแย้งในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน ซึ่งได้ส่งปลอกกระสุนไปเทียบกับการใช้อาวุธปืนตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในเขต กทม.และพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เพื่อสืบหาที่มาของปืนและกลุ่มคนร้าย มั่นใจว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้าทางคดีและสามารถออกหมายจับผู้ลงมือก่อเหตุ และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด